วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขนมพิมพ์หรือขนมรังต้อโบราณ ขนมพื้นบ้านทางภาคใต้
 
 
ขนมพิมพ์ (ขนมรังต้อ บ้านฉัน)
เป็นขนมที่ชุมชนบ้านหัวตะพาน ตลาดศุกร์ ทำขายและทำกินที่บ้านกันเป็นประจำ หรือทำในงานบุญ 
เช่นงานให้ทานไฟ ของหมู่บ้านชุมชนหัวตะพาน เพราะวัตถุดิบนั้นหาง่าย 
 
ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยาก แต่ต้องร้อนนิดหน่อยเท่านั้นเอง เพราะต้องผิงไฟ  หรือไม่อยากจะร้อนมากก็ ใช้แบบไฟฟ้า ที่เสียบปลักสบาย สบาย ตามแต่ถนัด แต่ความอร่อยคงจะไม่เหมือนกัน เพราะเตาถ่านจะหอมกลิ่นถ่าน กลิ่นขนม มากกว่า อย่างว่าแหละ บ้านนอกก็เป็นแบบนี้้แหละ

อุปกรณ์ สำหรับทำ
พิมพ์ขนม กับเตาอั้งโล่



หรือจะใช้แบบสมัยใหม่โดยใช้พิมพ์ไฟฟ้าเลือกได้ตามใจชอบ
ถ่าน  จวักสำหรับตักแป้ง น้ำมัน  ไข่แดงต้ม


แป้งใส่กะทิ                           แป้งใส่มะพร้าวทั้งกาก


ส่วนผสม

1. แป้งข้าวจ้าว         1 ถุง หรือบางเจ้าเขาประยุกต์เป็นแป้งสาลี

2. มะพร้าวทึนทึก     2 ลูก หรือคั้นกะทิเอาแต่หัว 2 กิโลกรัม

3. น้ำตาลทราย กับน้ำตาลปี๊บอย่างละเท่าๆกัน 1  กิโลกรัม

4. ไข่ไก่                 6 ฟองใส่ในแป้ง ปรับลดได้ตามต้องการ

5. ผงฟู                   3 ช้อนชา 

6. เกลือป่น            1/2 ช้อนชา 

7. น้ำสะอาด 

 

วิธีทำ 

นำแป้งมาขยำกับน้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทราย เติมน้ำไปสักเล็กน้อย อย่าไห้แป้งเหลว เติมไข่ไก่ เติมเกลือป่น ผงฟู ชิมรสตามชอบ พักตัวแป้งไว้ไห้แป้งพองตัว  จะได้แป้งขนมที่แป้งและน้ำๆเท่าๆกัน

 

น้ำมันสำหรับทาพิมพ์  วัสดุสำหรับชุบน้ำมัน เป็นกาบมะพร้าวเขียวทำเป็นแปรงทาพิมพ์

น้ำมันพืช  5 ช้อนโต๊ะ        ไข่แดงต้มสุก  1 ลูก


วิธีทำ นำน้ำมันมาใส่ในถ้วยแล้วเอาไข่แดงต้มใส่ลงไป ขยี่ให้แตกเคลือบด้วยน้ำมัน
 

วิธีผิงขนม
 
1. ก่อไฟเตาถ่าน ไห้ร้อนวางพิมพ์ขนมลง ทาน้ำมันไห้เคลือบพิมพ์ รอไห้พิมพ์ร้อน

2. เมื่อพิมพ์ร้อนทั่ว ตักแป้ง 1 จวัก ราดเกลี่ยไห้ทั่วพิมพ์ แล้วปิดฝา
 
3. รอ 4-5 นาที เปิดฝาพิมพ์ดูเช็คว่าเนื้อแป้งสุกดีรึยัง 
 
4. เมื่อขนมเริ่มสุก จะได้กลิ่นหอมของขนม พลิกกลับอีกด้าน จนสุกเท่ากัน 
 
5. ไช้ซ่อมตักตัวขนมออกจากพิมพ์แล้วจัดใส่จาน รอไห้เย็น หรืออุ่นๆก็รับประทานได้  




7. แล้วทำการพลิกกลับไปอีกด้านผิงจนสุก แคะขึ้นจากพิมพ์ 

ลักษณะของขนมที่สุกมากไปนิดหนึ่ง สีน้ำตาลเข้ม

ลักษณะของขนมที่สุกแบบพอดี พอดี สีจะอ่อนๆ แล้วแต่ความชอบ

 
ลักษณะขนมจะกรุบกรอบมะพร้าว หอมน้ำตาล กลิ่นถ่าน
 







0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น