วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

                                    ข้าวโพดหวานทานดิบสีม่วง พันธุ์ “เพียว ไวท์ ฮอกไกโด”

ข้าวโพดหวานทานดิบ สีม่วงทับทิมเป็นข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ชื่อพันธุ์ “เพียว ไวท์ ฮอกไกโด” รับประทานได้ทั้งดิบและสุก ด้วยรสชาติที่หวานหอม เมล็ดสีม่วงที่มี "แอนโทไซยานิน " หรือสารต้านมะเร็งสูงกว่าข้าวโพดทั่วไป มีเบต้าแคโรทีน สารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ให้คุณค่าดีๆต่อร่างกาย รสชาติหวาน ชุ่มฉ่ำ กลิ่นหอมละมุน เหมือนกลิ่นน้ำนมสด แช่เย็นก่อนรับประทานยิ่งอร่อย มีสารสีแดง ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า     

    

- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ลดการอักเสบ                           

- ช่วยสมานแผล                                                                                

- ช่วยปกป้องหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดโคเลสเตอรอลในเลือด      

- มีวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร และเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ   

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของข้าวโพดหวานสีม่วง เป็นข้าวโพดกินได้ทั้งสด ต้ม อบ เป็นข้าวโพดที่มีสารต้านมะเร็งในเกือบทุกส่วน มีทั้งในซังและลำต้น หากนำฝ้กสดมาต้มน้ำก็จะมีสีม่วงเช่นกัน

 

     ไหมข้าวโพด มีสารต้านมะเร็งที่สามารถนำมาทำเป็นชาชงดื่มได้อีกด้วย

     เมล็ดข้าวโพดหวาน เปลือกนอกสีม่วงมีแอนโทไซยานิน    

     เนื้อชั้นในสีเหลืองมีเบต้าแคโรทีน

 

วิธีการปลูกที่เหมือนกับข้าวโพดหวานทั่วไป 

  

1. นับเวลาปลูกตั้งแต่หยอดเมล็ดพันธุ์ถึงหักกินดิบ 58-63 วัน   

   2. หรือนับหลังออกไหม 18-21 วัน จะเป็นช่วงที่สามารถกินข้าวโพดหวานดิบได้  ซึ่งจะมีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

3. หลังจากนั้น 7 วัน ไม่ควรที่จะกินดิบ เพราะมีความเข้มข้นของแป้งสูงนั่นเอง ควรรับประทานแบบสุก เช่น ต้มหรือนึ่ง

 

โรคของข้าวโพดก็จะเป็นโรคเหมือนข้าวโพดหวานทั่วไป เช่น โรคราน้ำค้าง ใบลาย จะเกิดจากเมล็ดพันธุ์และช่วงฤดู สภาวะของอากาศ ข้าวโพดสามารถปลูกได้ทั้งปี สลับแปลงปลูกได้ เพราะในแต่ละช่วง เช่น อากาศชื้น ฝนตกฉ่ำมากจนเกินไป ก็จะพบเจอโรค หรือว่าช่วงที่ปลูกอากาศแล้ง ช่วงที่เขาออกดอกผสมเกสรของเขา มันก็จะไปแห้ง


ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.technologychaoban.com

 

ข้าวโพดหวาน สายพันธุ์ทั่วไปในท้องตลาด 



วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

วิดลูกคลัก "ลูกคลัก" คือปลาในบ่อ/คู หนอง ห้วย ตามธรรมชาติ  

"วิด" คือการทำไห้น้ำในบ่อ คู หนอง แห้งเพื่อการจับปลาที่อยู่ตามธรรมชาติได้สะดวก และจะใช้เครื่องมือผ่อนแรงแบบไหน เช่นเครื่องปั๊มน้ำ โพง ถัง 

วิดปลาในคู  วิดลูกคลัก คือการทำไห้น้ำแห้งเหลือแต่ปลาหลากหลายชนิดตามธรรมชาติ เช่น ปลาดุก ปลาช่อน ปลาซิว ปลาสร้อย ปลากระดี่ ปลาหลด ปลาไหล ปลาฉลาด ปลาหมอ ปลาเนื้ออ่อนและสัตว์น้ำอื่นๆ เช่น กุ้ง หอย ปู

เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่มีคูน้ำในร่องสวน ไร่นา พอน้ำเริ่มแห้งหรือลดลงจากเดิม แดดเริ่มแรง ก็ชักชวนสมัครพักพวก เพื่อนฝูง มาร่วมกัน จับปลา เพื่อนำไปประกอบอาหาร เป็นการแบ่งปันกันเพื่อนำไปไห้ครอบครัว

 อุปกรณ์ที่จะใช้จับหาปลา เช่น แห สุ่ม ฉมวก ตามแต่ถนัดของแต่ละคน เช่น 

ปลาดุก ปลาช่อน ชอบฝังตัวอยู่ในดินโคลนตมต้องใช้ สุ่ม ฉมวก

ปลากระดี ปลาซิว ปลาสร้อย ปลาที่อยู่ใต้ผิวน้ำ ต้องใช้ แห




 
 





 เฉี่ยนหมากพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์

"เฉี่ยนหมากพ่อท่านคล้าย" เครื่องทองเหลืองทั้งชุด เป็นของใช้ส่วนตัวท่านที่ใช้จริงเมื่อครั้งยังมีชีวิต    พ่อท่านคล้ายชอบเคี้ยวหมาก และคายชานหมากทิ้ง แล้วกลายเป็นหินไห้ ลูกหลานไว้บูชา มีไห้ดูที่        กุฎิหลังเดิมของพ่อท่านคล้าย ที่วัดสวนขัน อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

คนแก่หรือผู้สูงอายุสมัยก่อนเรียกวิธีการนี้ว่าเรียกว่า"ดับเฉี่ยนหมาก"

เฉี่ยนหมาก 1 เฉี่ยน มีอุปกรณ์ครบครันในที่เดียว

1.เต้าปูน   2.กรรไกรคีบหมาก    3.ตลับสีผึ้ง    4.ยน    5.ตลับสีผึ้ง   6.ตลับยาเส้น  7.หมากแห้ง หมากแก่ หมากสุก     8.ใบพลูเผ็ด   9.ปูนแดง




     ใครเคี้ยวหมากไม่ออก จะมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือในการตำหรือยน หมากกับพลูไห้เข้ากันอย่างละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน พร้อมจะกิน เช่น ครกตำหมาก และยนตำหมาก




กล้วยตาก

เรื่องกล้วยๆ ที่ไม่กล้วยอย่างกล้วยตาก พูดถึงกล้วยน้ำว้ามีสรรพคุณทางอาหารมากมายและนำมาแปรรูปได้หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ กล้วยแก่ กล้วยห่าม กล้วยสุก กล้วยงอม สารพัดวิธีการ ล้วนเป็นอาหารและเมนูกินเล่น เช่นกล้วยทอด กล้วยตาก เป็นการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ไห้เป็นประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าของพืชผัก และเปลือกกล้วยยังนำไปเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ประเภทไห้ดอกได้ด้วย

กล้วยที่จะนำมาตากไห้มีรสชาติหวาน หอม อร่อยนั้นมีการคัดเลือกกล้วยน้ำว้าไห้มีขนาด 15-16 ลูกต่อหวีขั้นตอนการทำ กล้วยน้ำว้าต้องสุกงอมเพื่อไห้รสชาติหอมหวาน และเนื้อกล้วยสวย เวลาตากจะมีน้ำหวานกล้วยออกมาเคลือบกล้วยไห้สีสวย

ขั้นตอนการทำกล้วยตาก

1. ปลอกกล้วย เอาเส้นใยออกไห้หมด ป้องกันกล้วยดำ แล้วแช่ในน้ำเกลือ 20 นาที

2. นำไปตากแดดแรงๆ 2 แดดแล้วนำมาทับไห้แบนตามความพอใจ 
 

3. เก็บใส่ตู้เย็นไว้ทุกครั้งก่อนนำมาตากใหม่ เนื้อกล้วยจะสวยนุ่มหวาน

  

4. นำไปตากแดดจนกว่ากล้วยจะแห้ง 

 

5. จัดใส่แพ็กเก็จไห้สวยงาม เป็นการเพิ่มคุณค่าของอาหาร

ภาพบางส่วนจากเฟสบุคส์ย่าศรี วิไล และคุณขวัญ