ข้าวโพดหวานทานดิบสีม่วง พันธุ์ “เพียว ไวท์ ฮอกไกโด”
ข้าวโพดหวานทานดิบ สีม่วงทับทิมเป็นข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ชื่อพันธุ์ “เพียว ไวท์ ฮอกไกโด” รับประทานได้ทั้งดิบและสุก ด้วยรสชาติที่หวานหอม เมล็ดสีม่วงที่มี "แอนโทไซยานิน " หรือสารต้านมะเร็งสูงกว่าข้าวโพดทั่วไป มีเบต้าแคโรทีน สารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ให้คุณค่าดีๆต่อร่างกาย รสชาติหวาน ชุ่มฉ่ำ กลิ่นหอมละมุน เหมือนกลิ่นน้ำนมสด แช่เย็นก่อนรับประทานยิ่งอร่อย มีสารสีแดง ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า
- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ลดการอักเสบ
- ช่วยสมานแผล
- ช่วยปกป้องหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดโคเลสเตอรอลในเลือด
- มีวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร และเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของข้าวโพดหวานสีม่วง เป็นข้าวโพดกินได้ทั้งสด ต้ม อบ เป็นข้าวโพดที่มีสารต้านมะเร็งในเกือบทุกส่วน มีทั้งในซังและลำต้น หากนำฝ้กสดมาต้มน้ำก็จะมีสีม่วงเช่นกัน
ไหมข้าวโพด มีสารต้านมะเร็งที่สามารถนำมาทำเป็นชาชงดื่มได้อีกด้วย
เมล็ดข้าวโพดหวาน เปลือกนอกสีม่วงมีแอนโทไซยานิน
เนื้อชั้นในสีเหลืองมีเบต้าแคโรทีน
วิธีการปลูกที่เหมือนกับข้าวโพดหวานทั่วไป
1. นับเวลาปลูกตั้งแต่หยอดเมล็ดพันธุ์ถึงหักกินดิบ 58-63 วัน
2. หรือนับหลังออกไหม 18-21 วัน จะเป็นช่วงที่สามารถกินข้าวโพดหวานดิบได้ ซึ่งจะมีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3. หลังจากนั้น 7 วัน
ไม่ควรที่จะกินดิบ เพราะมีความเข้มข้นของแป้งสูงนั่นเอง
ควรรับประทานแบบสุก เช่น ต้มหรือนึ่ง
โรคของข้าวโพดก็จะเป็นโรคเหมือนข้าวโพดหวานทั่วไป เช่น โรคราน้ำค้าง ใบลาย จะเกิดจากเมล็ดพันธุ์และช่วงฤดู สภาวะของอากาศ ข้าวโพดสามารถปลูกได้ทั้งปี สลับแปลงปลูกได้ เพราะในแต่ละช่วง เช่น อากาศชื้น ฝนตกฉ่ำมากจนเกินไป ก็จะพบเจอโรค หรือว่าช่วงที่ปลูกอากาศแล้ง ช่วงที่เขาออกดอกผสมเกสรของเขา มันก็จะไปแห้ง
ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.technologychaoban.com
ข้าวโพดหวาน สายพันธุ์ทั่วไปในท้องตลาด
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น