สูตรขนมปากหม้อหรือว่าข้าวเกรียบปากหม้อ
ที่่บางคนชอบกินใส้แบบเค็ม บางคนชอบแบบหวาน
ทำกินกันตอนวันหยุด ๆ
 |
| ลืมถ่ายตอนผัดใส้ ทำเฉพาะใส้เค็มทำไส้ ขนม ใส้เค็ม ใส้หว้าน หวาน เรามาดูส่วนผสมกันดีกว่าว่ามีไรบ้าง บ้าง
ไส้เค็ม หอมมัน อร่อย
วิธีการทำไส้เค็ม ผัด ผัด
มาทำตัวแป้งกัน
ส่วนผสมประกอบด้วย
เมื่อเราได้เวลาที่จะทำ นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน มาร่อนผสมกันให้รวมกันเป็นเนื้อเดียวกัน
แล้วนำน้ำใบเตยหรือน้ำดอกอัญชันมาผสมลงในแป้งที่เราร่อนเตรียมไว้ เราก็จะได้แป้งสำหรับทำ ขนมปากหม้อ
เราทำการนำหม้อสำหรับใส่น้ำแล้วนำผ้าขาวบางมาขึงไว้ที่บนปากหม้อ (หรือว่าเป็นที่มาของชื่อเรียก ก็เป็นได้)
เจาะรูบนผ้าสำหรับให้ไอน้ำระเหอออกมา เมื่อน้ำร้อนเดือดเราก็ทำการตักแป้งละเลงที่ปากหม้อ บางๆ 1 จวัก
แล้วปิดฝาหม้อ เมื่อตัวแป้งสุก ทำการตัดแบ่งอนาเขต เพื่อให้ได้ัตัวขนมขนาดพอดีกับขนาดเป็นคำๆ
ตักใส้ ใส่บนแป้งที่ร้อนและสุก แล้วทำการเกลีี่่ยตัวแป้งที่ขอบด้านนอก ใช้ไม้พายแซะ มาห่อปิดใส้
แล้วม้วนปิดเป็นคำตามขนาดที่ต้องการ และความสวยงามตามแบบฉบับของเรา
เมื่อได้ตัวขนมปากหม้อ แล้วก็ทำการตักมาพักไว้แล้วนำมา คลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียว
รับประทานกับผักกาดหอม ผักชีและพริกขี้หนู
ส่วนไส้หวาน จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าข้าวเกรียบอ่อนปากหม้อ
ไส้จะประกอบด้วย
1. มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นด้วยกระต่ายจีน (บ้านฉันเรียก เหล็กขูด)
2. แล้วนำไปกวนกับน้ำตาลทรายจนใส แล้วเติมถั่วทองคั่วหอมๆลงไปด้วย ได้ใส้หวานกันแล้ว
การทำน้ำกระทิ ก็นำน้ำกะทิมาตั้งไฟให้ร้อนพออุ่นๆ เติมเกลือตัดรสหวานนิดหน่อย
เมื่อห่อตัวแป้งและใส้ เสร็จ ตักใส่ลงในน้ำกะทิแทนน้ำมันกระเทียมเจียว
โรยด้วยงาคั่วบุบพอแตกคลุกน้ำตาลกับเกลือเล็กน้อยก่อนรับประทาน |
อันนี้ไปซื้อที่ตลาดมา จัดซะสวยเลย มาเปรียบเทียบกันเห็นๆ ว่า สวยเหมือนๆ กัน อิอิ
ข้าวเกรียบปากหม้อ
ตอบลบ