วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558


กินผักกันดีกว่า



คนเรารู้จักกินผักกันมาแต่สมัยโบราณกันแล้ว คนสมัยก่อนเขาปลูกผักกินเอง ไม่ต้องมีสารเคมีเข้าไปทำให้ดินและรสชาติของผักเสีย ผักนั้นทั้งหวาน ทั้งกรอบ กินแล้วก็สุขใจกับการปลูกผักของตัวเอง
ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อหาให้วุ่นวาย แต่เดี๋ยวนี้คนที่จะปลูกผักก็ปลูกเพื่ออุตสาหกรรมกันเสียมาก 
ไม่คำนึงถึงผู้บริโภคสักเท่าไหร่ และคนสมัยนี้ก็ไม่ค่อยกินผักกัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ หรือเด็กๆ 
ก็ไม่ชอบผักกัน มีแต่คนรุ่นอายุ ประมาณ 35-40 ขึ้นเป็นส่วนมากที่กินผักกัน แต่ไม่ได้ทุกคนเช่นกัน 
ส่วนมากนิยมกินแต่เนื้อสัตว์ อาหารฟาดฟู๊ด อาหารจานด่วนที่มีผักน้อยเต็มที่ ซึ่งบางทีก็รู้ว่าผักนั้นมีประโยชน์แต่ก็ไม่ยอมกิน จะกินก็ต่อเมื่อเป็นโรคร้ายต่างๆ ก็เสาะหาว่าผักชนิดใดมีประโยชน์บ้าง 
แต่ก็ยังไม่สาย ที่จะทำใจให้กินผัก บางคนกินแล้วก็ติดใจ นำไปดัดแปลงทำเป็นเมนูต่างๆ ได้อย่างมีสุข
ไม่ว่าจะนำไปผัด แกงเลียง หรือ แกงผัก ทอดกรอบ และอีกมากมาย
มาดูกันว่า ผักชนิดใดกิน แล้วได้อะไร มีประโยชน์อย่างไร เช่น


เห็ดหอม 
เป็นเห็ดมีขายกันในรูปเห็ดตากแห้ง 
เห็ดหอมมีรสหวาน มีกลิ่นหอม สารเคมีที่พบมีเส้นใย ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและวิตามินบี มีการทดลองพบว่าเห็ดหอมมีฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอลในเลือด 
ถ้ารับประทานเห็ดหอมเป็นยาบำรุงกำลัง
ช่วยย่อย ลดอาการเบื่ออาหาร







งา มีทั้ง งาดำและงาขาว
มีกลิ่นหอม มีน้ำมันมาก มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรด วิตามินบี 1, บี 2, วิตามินอี และเกลือแร่หลายชนิด สรรพคุณบำรุงกำลัง แก้ท้องผูก ผมหงอกก่อนวัย 
ลดโคเลสเตอรอลในเลือด และเสริมภูมิต้านทานโรค 
ถ้ารับประทานเป็นประจำ ข้อระวังผู้มีท้องร่วงเรื้อรัง 
ไม่ควรรับประทาน




ถั่ว

ได้แก่ ถั่วลันเตา ถั่วแขก มีสารอาหารที่สำคัญคือ โปรตีน ไขมัน และเกลือแร่หลายชนิด มีคุณค่าอาหารครบถ้วน มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย 
ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำได้







ขี้เหล็ก

ใช้ใบรับประทาน ใบขี้เหล็กมีวิตามินเอ วิตามินซี เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 และไนอาซิน สรรพคุณทางยาของใบขี้เหล็กมีสารชนิดหนึ่งออกฤทธิ์ต่อประสาททำให้นอนหลับดี แก้ท้องผูกได้ดี และบำรุงร่างกาย







ตำลึง
เป็นไม้เถา ใช้ใบรับประทาน เป็นพืชมีคุณค่าสูงทั้งวิตามินเอ แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก ยังมีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรด ฟอสฟอรัส เหล็ก เหมาะเป็นอาหารบำรุง นอกจากนี้ตำลึงยังมีคุณสมบัติแก้แพ้ได้ดี โดยนำใบมาพอกบริเวณโดนสัตว์กัดต่อย






ผักหวานบ้าน

ผักหวานบ้านเป็นผักที่มีวิตามินเอมากเป็นพิเศษ  
(วิตามินเอมีประโยชน์กับสายตามาก) 
และเป็นผักที่มีวิตามินเค 
(วิตามินเคมีประโยชน์ในเรื่องการช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อ
มีบาดแผลแล้วเลือดออก ทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานร่วมกับวิตามินดีในการควบคุมระดับแคลเซียมในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างเซลล์กระดูกและเนื้อเยื่อในไต   สารสกัดจากใบและลำต้นของผักหวานบ้านด้วยแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ HIV-1 reverse transcriptase เล็กน้อย แต่ไม่มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งในหนูทดลอง  ใบผักหวานบ้านมีสาร Papaverine หากรับประทานมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ และท้องผูกได้ 
สารสกัดด้วยเอทานอลของผักหวานบ้านมีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที (Allelopathy) สามารถยับยั้งการเจริญของคะน้า 



มะระ 
เป็นผักจำพวกแตง มีรสขม เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย 
มีการกินมะระลดน้ำตาลในเลือดได้ 
(ส่วนเม็ดมะระจีนแก่จัดตากแห้งแกะเปลือกนอกออก)  นำมาบดให้ละเอียด ละลายน้ำร้อน
กินวันละครั้งก่อนนอน 
จะแก้อาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และกระตุ้นความรู้สึกทางเพศได้ 




ผักกาด 

ผักกาดมี 3 ชนิด ผักกาดขาว ผักกาดเขียว และ
ผักกาดหอม ต่างมีสารอาหารเกลือแร่วิตามินครบบริบูรณ์ และมีเส้นใยอยู่จำนวนมาก การรับประทานเป็นประจำจะป้องกันอาการท้องผูก ลดการเป็นมะเร็งลำไส้ ส่วนผักกาดหอมสามารถป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และวิตามินซีที่มีอยู่ในผักจะสร้างเสริมภูมิต้านทานโรค 




มะเขือยาว 


มะเขือมีอยู่ 3 ชนิด เปลือกสีเขียว สีม่วง และสีขาว พบว่าเปลือกสีม่วงและสีขาวมีคุณภาพดีกว่าสีเขียว 











ในมะเขือมีวิตามินบี จำนวนมาก ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของสมอง ช่วยความจำ ลดอาการอ่อนเปลี้ยของสมอง ในมะเขือยาวนี้มีโปรตีน แคลเซียม และวิตามินมากกว่ามะเขือเทศ การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้เส้นเลือดไม่เปราะ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคลักปิดลักเปิด





ปวยเล้ง 
เป็นผักที่มีสีเขียวเข้มมีเส้นใย เกลือแร่ วิตามินซีจำนวนมาก และยังพบว่ามีกรดออกซาลิกอยู่มากเช่นกัน ซึ่งกรดนี้ถ้ารวมตัวกับแคลเซียมจะทำให้เกิดนิ่วได้ ก่อนบริโภค ควรลวกผักปวยเล้งให้สุกก่อนแล้วเทน้ำทิ้งไป จึงนำผักมาปรุงอาหารได้ ทำเช่นนี้กำจัดกรดออกซาลิกออกไป ปวยเล้งถ้ารับประทานเป็นประจำ จะยับยั้งการดำเนินของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานอีกด้วย




แค 


รับประทานดอกมีชนิดสีแดงและสีขาว มีสรรพคุณลดไข้ ส่วนใบแครับประทานเป็นยาระบายได้ 










หัวปลี 
เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย ใบหัวปลีมีธาตุเหล็ก จึงบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง และยังคงลดน้ำตาลในเลือด และแก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ การนำมาปรุงอาหารได้แก่ ยำหัวปลี หรือรับประทานสดก็ได้








เกร็ดเล็กน้อยในการปรุงอาหารผักให้ได้คุณค่า
1. การหั่นผักแล้วล้าง น้ำจะทำให้วิตามินซีในผักสูญเสียไป เพราะวิตามินซีสลายตัวได้ง่ายในน้ำ 

    ดังนั้นจะต้องล้างผักก่อนแล้วจึงหั่น และเมื่อหั่นเสร็จแล้ว ควรปรุงทันที
2. หลังปรุงแล้วควรรับประทานทันที เพราะการทำทิ้งไว้นาน ๆ หลังปรุง จะทำให้สิ่งมีคุณค่าทางอาหาร       สูญเสียไปได้
3. วิธีการหุงต้มผักทุกชนิดล้วนมีผลต่อการสูญเสียวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีละลายน้ำได้ 
ดังนั้นการ       รับประทานผักต้ม จะต้องรับประทานน้ำแกงด้วย การต้มควรจะต้มในน้ำน้อย ๆ และใช้เวลาสั้น ๆ
4. การปรุงอาหารจำพวกผัก ถ้าเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร 
   และรักษา วิตามินซีไว้ด้วย
5. เครื่องครัวที่ใช้ผัดหรือต้มผัก ควรเป็นพวกเหล็ก เพราะจะทำให้วิตามินสูญเสียน้อยกว่าพวกทองแดง


 แกงเลียงผักหวาน บวบ เห็ดหูหนู ข้าวโพดอ่อน ตอนเย็น อร่อย เบาสบายท้อง


















ทีีบ้านผู้เขียน ตอนที่ปลูกผักกัน ช่วยกันทั้งครอบครัว สนุกเป็นเรื่องของเด็กๆ ช่วยกันพรวนดิน รดน้ำ หยอดเมล็ดผัก ความสุขของแม่ ฝีมือของพ่อ แต่ทีี่เสียดายตรงที่ มีเมล็งมากินผักนี่สิ เซ้ง เซ็ง เซ็ง แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำ มีเหลือให้ได้กิน หวานกรอบ อร่อย แล้วจะปลูกอีก ตอนนี้ตกลงกันว่าต้องกางมุ้งซะแล้ว

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น