วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

 โบราณสถานตุมปัง ณ.ดินแดนมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

 
วันนี้วันดีได้ไปทำบุญประจำปีโบราณสถานตุมปังหรือวัดตุมปังร้างในป่ากลางมหาวิทยาลัย 9,000 ไร่ 
สร้างในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ประมาณ พ.ศ. 1400 กว่าๆ อายุสถานที่ประมาณ 1,140 ปี 
ในปี พ.ศ. 2536 พบชิ้นส่วนท่อนล่างของรูปเคารพสลักจากหินซึ่งสันนิษฐานว่า เป็น เทวรูปองค์พระนารายณ์ เป็นศาสนสถานในพุทธศาสนานิกายมหายาน

  ในภาพอาจจะมี ต้นพืช และ สถานที่กลางแจ้ง  
เมื่อตอนเป็นเด็ก ปู่เคยเล่าให้ฟังว่า เคยเห็นทวดตุมปังมารับทวดเกียบ ว่ายน้ำอยู่คลอง เดือน 12 ขึ้น15 ค่ำ (คำว่าทวดคือ คนเก่าแก่ที่นับถือกันมา) ความเป็นเด็กก็ถามปู่ว่าแล้วทวดตุมปังเป็นอะไรถึงว่ายน้ำตอนกลางคืนยามเดือนเพ็ญ  ปู่บอกว่าทวดตุมปังเป็นงูตัวใหญ่ ตัวเท่าต้นหมาก หงอนสีแดงๆ ว่ายทวนน้ำไปรับทวดเกียบ เกียบเป็นชื่อของคลองแถวบ้านสร้างคู่กับโบราณสถานแห่งนี้ เป็นคู่ครองกันแต่ต้องแยกกันปกปักษ์รักษาตามพื้นที่ของตัวเองเมื่อถึงคราที่ได้สัญญากันไว้ว่าจะมาพบกันปีละครั้งก็
จะมาหากัน แล้วเลื้อยไปที่เทวสถานตุมปัง เพื่ออยู่เป็นคู่ครองกันเมื่อได้เวลาจากก็ต้องจากกันไปรักษาพื้นที่ของตัวเองกัน (เรื่องเล่าของปู่) เพราะปู่เล่นไสยศาตร์ ปู่จึงเห็น และฟังจากที่เขาเล่าต่อๆกันมา

 
บ้างก็ว่า เห็นงูตัวใหญ่นอนอยู่ในวัดร้างแห่งนี้บ้าง เห็นผลหมากรากไม้ดกเต็มต้นบ้าง แต่ขออย่างเดียวอย่าโลภ ก่อนจะเข้าไปให้ขอทางให้ทวดคุ้มครอง ไม่ไห้มีอันตรายอันได ก็สำเร็จทุกประการ
บางคนโลภมาก เห็นใบพลูเดินเข้าไปเก็บกินแต่เก็บไปเก็บมาความโลภบังเกิด เก็บจนไม่มีที่จะใส่เดินหลงวนเวียนอยู่ที่เดิมไม่มีทางออก จนต้องยกมือไหว้ขอโทษทวดตุมปังว่าลูกจะไม่ทำอีกแล้วไม่โลภอีก
ก็จะเห็นทางเดินออกมาได้ ...... 


บ้างก็เล่าว่าเข้าไปหาสิ่งที่ต้องการเช่น ยอดพ้อ หรือกรีดยางแล้วนั่งพัก ตามองเห็นแต่ผ้าลายๆผืนใหญ่ก็นั่งพัก พอจะเคลิ้มหลับผ้าที่นอนนิ่งๆ ก็เริ่มขยับได้ มองอีกทีเป็นงูเหลือมตัวใหญ่ยักษ์ที่นั่งทับอยู่ ก็ลุกขึ้นขอโทษขอโพยว่า ลูกจะไม่ล่วงเกินสิ่งอันใดที่ลูกไม่ต้องการอีกแล้ว งูก็หายไป.....

เมื่อตอนที่ผู้เขียนเป็นเด็กนักเรียนคุณครูจะนำเด็กมาพัฒนาปีละ 2 ครั้ง ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะมี เห็นสระน้ำใส นิ่ง เย็นเฉียบ ไม่มีแม้แต่ยุงสักตัว เด็กๆก็นำเอาใบไม้กิ่งไม้ออกจากสระแห่งนั้น ครูบอกว่าดื่มได้แตไม่มีใครกล้าดื่มกินกัน ตอนนี้สระแห้งขอดหมดแล้ว เพราะเมื่อก่อนเป็นป่าทึบรกชัน แต่ก็มีรมเงาเย็นสบาย เด็กๆก็มีความสุขที่ได้มาบำเพ็ญประโยชน์กัน กลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีความสุขใจที่ได้ทำ





ประวัติความเป็นมา 
เป็นวัดร้างชาวบ้านเรียกวัดตุมปังบ้าง เทวสถานตุมปังบ้าง ในบริเวณวัดมีเนินดิน ๓ เนิน บนยอดเนินมีฐานและท่อนล่างของรูปเคารพตั้งอยู่ชาวบ้านเรียกกันว่าทวดตุมปัง เป็นที่นับถือของชาวบ้านในย่านนี้ คำว่าตุมปังนั้น เพี้ยนมาจากภาษายาวี ความหมายเดิมคือ ที่อยู่ ที่อาศัย
สถานที่โดยรอบ มีทั้งต้นไม้หลากหลายชนิดหลายพันธุ์


ที่บ้านผู้เขียนก็นับถือ ทวดเกียบ ทวดตุมปัง เวลาบนบานขออะไรท่าน เมื่อได้ตามประสงค์ที่ขอแล้วก็แก้บนด้วยการต้มข้าวต้มกะทิ แล้วหามกัน 2 คน เป็น 1 หาม (เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล)

ในภาพอาจจะมี 2 คน, แหวน และ ภาพระยะใกล้


0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น