โรคท้องเสีย โรคลำไส้อักเสบ ไม่ควรนิ่งนอนใจ อันตรายถึงซ๊อค

โรคท้องเสีย /ลำไส้อักเสบ

เล่าเรื่องอาการท้องเสีย เนื่องจากคุณแม่ผู้เขียน ได้กินขนมจีนไปตอนเย็นของวันศุกร์ พอเช้าวันเสาร์ตื่นมาก็ท้องเสีย ถ่ายเหลวแล้วถ่ายอีก จากเช้าถึงเที่ยงประมาณ 15 รอบ จนเพลียหมดแรง ตอนบ่ายโมงโทรหาผู้เขียนไห้พาไปโรงพยาบาลหน่อยเนื่องจากเพลีย ไม่มีแรง เวียนหัว กลัวจะขับรถไม่ได้

(ก่อนหน้านั้นน้องซื้อเกลือแร่ และยาหยุดถ่าย มาให้กินแต่อาการไม่ดีขึ้นเลย) **ความเป็นจริงไม่ควรกินยาหยุดถ่าย เพราะจะทำไห้เชื้อโรคยังอยู่ในลำไส้ ***เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์*** 

ตอนบ่ายได้พาแม่ไปหาหมอ อาการก่อนพบหมอ (ซึ่งขณะที่รอตรวจเช็คประวัติ วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ก็เดินไปถ่ายอยู่หลายรอบ จนรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลีย ถึงขึ้นนอนรอเลย) บอกหมอตามอาการที่มีอยู่ 

*หมอสักถาม กินอะไรไป ** แม่ตอบ กินขนมจีนไป *หมอถามถ่ายกี่รอบ ** แม่ตอบ เกือบจะ 20 รอบแล้ว ตั้งแต่เช้าจนมานั่งรอหมอ ** หมอก็บอกว่า น่าจะท้องเสียเนื่องจากเส้นขนมจีน **

*กำชับอีกว่าไม่ต้องไปกินยาหยุดถ่ายนะ เพราะยาจำพวกนั้นทำไห้อาเจียนได้ อาการจะแย่กว่าเดิม *

หมอจ่ายยา มีเกลือแร่ ยาลดไข้ ไห้กลับบ้าน แม่อยากนอนโรงพยาบาล หมอบอกคนไข้เยอะโรคก็เยอะ เผื่ออาการดีขึ้นไปพักที่บ้านก่อนนะ อากาศดีปลอดโปร่ง หมอสั่งอีกว่า ถ้าถ่ายไม่หยุดหรือรู้สึกไม่ดี 

มาโรงพยาบาลเลยนะ พอตอน 6 โมงเย็นก็ไม่มีอาการดีขึ้นเลย มาโรงพยาบาลอีกรอบ คราวนี้นอนเลย

หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคท้องเสีย ให้น้ำเกลือไป 1 ถุง แต่อาการไม่ดีเลยยังไม่หยุดถ่าย ยังถ่ายเหลวต่อเนื่องจนแสบทวานหนัก

*หมอคนใหม่เลยไห้เอาอุจาระไปตรวจ * ผลออกมาว่าลำไส้อักเสบร่วมด้วย * 

แต่แม่ยังถ่ายต่อเนื่อง 1 วัน 1 คืน ยังเพลีย รุ่งเช้าหมอบอกว่าลำไส้อักเสบร่วมด้วยต้องฉีดยาแก้อักเสบ 5-6 เข็ม หลังจากนั้นก็ยังถ่ายอยู่ แต่ห่างๆ ชั่วโมงละครั้ง นอนโรงพยาบาลไป 3 คืน 3 วัน พร้อมกับน้ำเกลือ 2 ถุง การถ่ายยังมี แต่ห่างๆ แล้ว ฉีดยาแก้อักเสบและให้น้ำเกลืออีก 1 ถุง รู้สึกว่าแค่ 2-3 วันแม่น้ำหนักลดลงไปมาก ผอมเลย แต่ยังถ่ายเหลวอยู่ อยู่ต่ออีกจนหยุดถ่าย หมอก็ไห้ออก กลับบ้าน

เมื่อกลับบ้านแล้ว ไม่ถ่ายก็จริงแต่แม่รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรงร่วมเดือน เพราะ (แม่มีโรคประจำตัว ไขมัน

ความดัน เบาหวาน ) การที่มีโรคเหล่านี้อยู่ด้วย การฟื้นของร่างกายค่อยข้างช้า ไม่มีแรง อ่อนเพลีย

ต้องบำรุงกันต่อไป