วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ขี้ไต้ ยางนา 

ขึ้นชื่อว่า ยางนา บ้านฉันเรียกว่าอย่างนั้น ส่วนตัวชอบมองมาก เพราะต้นใหญ่ให้ร่มเงา อยู่ข้างๆบ้านและหลังบ้านหลายต้น เมื่อก่อนตอนจะทำบ้านไม้สักหลัง ก็ต้องไปเลื่อยต้นยาง มาทำเป็น ตัวไม้และฝาบ้านกัน  เพราะต้นยางนาจะต้องปล่อยไว้ให้เป็นต้นใหญ่มากๆ ประมาณ 2-3 คนโอบกันทีเดียว
ต้นเดียวคุ้มได้ทั้งบ้าน

 
แต่ตอนนี้ ยางนาเป็นต้นไม้คุ้มครอง หรือต้องอนุรักษ์เพราะเป็นต้นไม้ที่สูงและใหญ่ พื้นที่น้อยจึงต้องอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นลูกหลานไว้ชม
(ผิดกฎหมาย) ถ้าโค่น แต่บ้านนอกอย่างเรามีไว้ให้ได้ชมกันมากมาย

นอกจากทำบ้านและเครื่องใช้แล้ว สมัยก่อนก็ยังนิยมเผาต้นยางเพื่อเอาน้ำยางมาทำเป็นขี้ใต้เพื่อจุดไฟ และอุดรอยรั่วของเรืออีกด้วย เป็นภูมิปัญญาไทยแท้แต่โบราณ

น้ำมันยางนา น้ำมันยางเป็นของเหลวข้น มีกลิ่นเฉพาะ กลิ่นแบบเปลือกต้นแห้งๆ เป็นน้ำยางที่ได้จากการเจาะโพรงเข้าไปในต้นยางนาแล้วเอาไฟลน น้ำยางจะไหลลงมาขังในแอ่งที่เจาะไว้ ของด้านข้างของต้นจะได้น้ำมันยาง ไหลมารวมกัน


น้ำมันยางจากต้นมีรสร้อนเมาขื่น มีสรรพคุณเป็นยาสมานแผล ห้ามหนอง ใช้เป็นยาทาแผลเน่าเปื่อย แผลมีหนอง แผลโรคเรื้อน แก้โรคหนองใน และเป็นยากล่อมเสมหะ

วิธีการเผามีดังนี้จ้า ไม่ได้ทำร้ายต้นไม้มากมายนะจ๊ะ เพราะมันยังยืนต้นได้อีกนาน

1. หาต้นยาง เจาะต้นยางให้เป็นโพรง 1 โพรง


2. จุดไฟเผาตรงโพรงที่เจาะไว้ ไห้ไฟลามเลียน้อยๆ ค่อยๆติด คอยเติมใบใม้เป็นระยะๆ ต้องใจเย็นๆ คนเฒ่าคนแก่นิยมทำกันเป็นส่วนมาก


3. เมื่อเผาเสร็จ จะได้ประมาณนี้ แล้วนำไปผสมกับอื่นๆ เช่น กาบมะพร้าว ฟาง หรือ อะไรก็ได้ที่แห้งและสามารถ ตัด แบ่งมาสำหรับก่อไฟได้

 
ยางนา....ถูกเผาเอาน้ำมันยางไปทำขี้ไต้




ถ้าจะใช้อุดเรือ ต้องมีขั้นตอนและกรรมวิธี ต่างๆ ก็ตามภูมิปัญญาอีกนั่นแหละ
นำปูนแดง ด้ายดิบ น้ำมันยาง คนให้เข้ากันจนเหนียว นำมาผสมกันน้ำยางแห้งที่บดเป็นผงแล้ว 
เติมน้ำยางอีกนิด คนให้เหนียว เข้ากัน ก็นำไปอุดเรือได้ เรียกว่า ขี้ชัน

ชันคือน้ำยาง ทำให้แห้งบดเป็นผง แล้วผสมปูนแดง
ชันนั้นคือยางไม้ชนิดหนึ่งเขาจะเก็บยางไม้มาบดเป็นผง..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/128103
ชันนั้นคือยางไม้ชนิดหนึ่งเขาจะเก็บยางไม้มาบดเป็นผง แต่เดี๋ยวนี้มีขายที่บดเสร็จแล้ว..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/128103



ขี้ไต้ไว้ก่อไฟ
 
มัดขี้ไต้ มีขายตามตลาด ชนบท
 ลูกยาง หรือดอกยาง

จากคำถามอันมากมาย ว่าต้นไม้จะตายมั้ย 

ตอบ ต้นไม้ไม่ตาย ชาวป่าทำกันมาเนิ่นนาน

ตอบ เผาเพื่อเอาน้ำยาง

ตอบ เอาน้ำมันยางที่บ้านก็เคยทำสมัยยังก่อไฟเตาถ่าน

ตอบ ลนไฟเอาน้ำมันยางไปไว้ใช้ผสมไม้หรือกาบมะพร้าวเป็นเชื้อไฟจุดเตา   

ตอบ เผาเอาน้ำยางมาทำขี้ไต้หรือทาเรือไม้สมัยโบราณ

ตอบ มีป่า ก็มีพลังงานเชื้อเพลิง...

ตอบ ใช้ไฟเผาเพื่อให้ได้น้ำมันยาง..แล้วเอาเปลือกของต้นเสม็ดมาชุบน้ำมันยาง..จะกลายเป็นขี้ใต้..ใช้สำหรับเวลาจุดไฟ   
 

ใช้ทางยา ตำรายาไทย
  • เปลือกต้น น้ำต้มจากเปลือกเป็นยาบำรุงร่างกาย ฟอกเลือด บำรุงโลหิต แก้ตับอักเสบ และใช้ทาถูนวดขณะร้อน ๆ เป็นยาแก้ปวดตามข้อ
  • น้ำมันยาง ใช้ผสมกับเมล็ดกุยช่าย (Allium tuberosum Rottler ex Spreng.) นำมาคั่วให้เกรียม บดให้ละเอียด ใช้เป็นยาอุดฟันแก้ฟันผุ  
  • เมล็ดและใบ มีรสฝาดร้อน นำมาต้มใส่เกลือใช้อมแก้ปวดฟัน ฟันโยกคลอน  
  • ใช้น้ำมันยาง 1 ส่วน ผสมกับแอลกอฮอล์กิน 2 ส่วน แล้วนำมารับประทนเป็นยาขับปัสสาวะ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้มุตกิดระดูขาวของสตรี หรือใช้จิบเป็นยาขับเสมหะก็ได้  
  • ใบและยางมีรสฝาดขมร้อน ใช้รับประทานกินเป็นยาขับเลือด ตัดลูก (ทำให้หมัน)
  • น้ำมันยางดิบ มีรสร้อนเมาขื่น มีสรรพคุณเป็นยาถ่ายหัวริดสีดวงทวารหนักให้ฝ่อ  
  • น้ำมันยางจากต้นมีรสร้อนเมาขื่น มีสรรพคุณเป็นยาสมานแผล ห้ามหนอง ใช้เป็นยาทาแผลเน่าเปื่อย แผลมีหนอง แผลโรคเรื้อน แก้โรคหนองใน และเป็นยากล่อมเสมหะ  
ภาพจาก เพื่อนเฟส เราลูกชาวนา คนรักษ์ป่า เรียบเรียงโดยบ้านบิวเบสท์

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น