วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558



กะหล่ำปลี ป้องกันมะเร็ง


กะหล่ำปลี ควรรับประทานแต่พอเหมาะ เนื่องจากการรับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้มี
ปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ได้ และที่สำคัญควรระมัดระวังเรื่องยาฆ่าแมลงให้มาก
เพราะกะหล่ำปลี ติดอับดับ 1 ของผักที่มีสารปนเปื้อนมากที่สุด

การบริโภคเข้าไปในปริมาณมากอาจจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มึนงง หายใจลำบาก
คลื่นไส้อาเจียน มีอาการชักหรือหมดสติได้
ประโยชน์ สรรพคุณ
ช่วยลดความอ้วน 
กะหล่ำปลีมีกรดทาร์ทาริก ช่วยยับยั้งขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งไปเป็นไขมันสะสมในร่างกาย 
จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลได้
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 
กะหล่ำปลีมีวิตามินสูง ทำให้หวัดหายเร็ว ฟันและเหงือกแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน การนึ่ง อบ ผัด จะคงคุณค่าสารอาหารในกะหล่ำปลีไว้ได้ดี
บำรุงกระดูกและฟัน 
กะหล่ำปลีมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส ที่ดีต่อร่างกายใช้เสริมสร้างกระดูกให้เด็กและคนชรา
ลดความเสี่ยงจากมะเร็งลำไส้ 
ให้รับประทานแบบสุกหรือดิดได้ประมาณ 2 ครั้ง/สัปดาห์ ช่วยลดการเป็นมะเร็งลำไส้ในผู้ชาย
ได้ร้อยละ 66 หากทานแบบปรุงสุกทุกวัน วันละ 2 ช้อนโต๊ะ ช่วยป้องกันมะเร็งช่องท้องได้เช่นกัน
ช่วยย่อยอาหารและล้างพิษ 
กะหล่ำปลีมีใยอาหารในปริมาณที่พอเหมาะจึงช่วยย่อยอาหาร ลดระดับคอเลสเตอรรอลไนเลือด
กระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
ช่วยให้นอนหลับสบาย 
สารซัลเฟอร์ในกะหล่ำปลีช่วยระงับประสาททำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ความตึงเครียด ทำให้นอนหลังดีขึ้น  วิธีรับประทาน นำกะหล่ำปลีไปคั้นสดๆ แล้วดื่ม

ช่วยชะลอการเกิดผมหงอก 
กระตุ้นโปรตีนเคราติน (Keratin) ช่วยบำรุงรากผมเพราะกะหล่ำปลีมีวิตามินบี5
รักษาแผลในกระเพาะอาหาร 
กะหล่ำปลีมีสารต้านการอักเสบของแผลในกระเพาะและสำไส้ตามธรรมชาติ
ช่วยกระตุ้นเซลล์เยื่อบุกระเพาะและลำไส้ให้สร้างน้ำคัดหลั่งเคลือบผิวทางเดินอาหาร 
จึงป้องกันไม่ให้เกิดแผลกับกรดในกระเพาะอาหารได้
บรรเทาอาการคัดตึงเต้านม 
ให้นำกะหล่ำปลีมาประคบเต้านม โดยลอกออกเป็นใบแล้วนำมาประคบเต้านมข้างละ 1ใบ
ใช้ผ้าพันทิ้งไว้ 20 นาที ไม่ต้องนวดคลึง อาการปวดคัดตึงจะหายไป

ใช้ประกอบอาหาร เช่น
ผัดกะหล่ำปลีใส่ไข่ กะหล่ำปลีตุ๋นซี่โครงอ่อน  กะหล่ำปลีต้มยัดไส้หมู กะหล่ำปลีม้วนใส่หมูบดปรุงรส
ต้มกะหล่ำปลีเจ แกงส้ม แกงจืด ห่อหมก รับประทานร่วมกับน้ำพริก ทำเป็นสลัด

 

ก่อน การนำมารับประทานก็ควรล้างให้สะอาดก่อน แล้วแช่น้ำสะอาดประมาณ 10 นาที
หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง จะช่วยลดสารพิษตกค้างได้ เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด
และวิธีอื่น ๆก็เช่น แช่น้ำปูนใส การใช้ความร้อน แช่น้ำด่างทับทิม ล้างด้วยน้ำไหลจากก๊อก
แช่น้ำซาวข้าว แช่น้ำสมสายชูหรือเกลือป่น แช่น้ำยาล้างผัก

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น