วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

น้ำมันปลากับสุขภาพ 


น้ำมันปลา คนที่รักสุขภาพคงจะรู้จักกันดี เพราะเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่นิยมบริโภคกันอย่างทั่วไป เพราะเชื่อกันหรือบอกต่อๆกันมาว่า น้ำมันปลาแก้ปัญหาการเกิดเส้นเลือดอุดตันได้เมื่อรับประทานได้มาสักระยะ จากการสังเกตุหรือตามที่แพทย์ตรวจก็ตาม มีเพื่อนคนหนึ่งเขาเป็นเส้นเลือดขอดอยู่นานแล้วมีคนแนะนำให้รับประทานน้ำมันปลาไป สักระยะ อาการของเส้นเลือดขอดก็ดีขึ้นตามลำดับ

จากการวิจัยของชาวญี่ปุ่นในปี 1980 ชาวบ้านหมู่บ้านชาวประมงรับประทานปลาเป็นอาหารหลังมีปัญหาโรคหลอดเลือดและหัวใจต่ำ การเกาะกันของเกล็ดเลือดและความหนืดต่ำ เนื่องจากอาหารทะเลมีน้ำมันปลาในปริมาณสูง ดังนั้นน้ำมันปลาจึงอาจเป็นแนวทางในการป้องกันรักษาภาวะเส้นเลือดอุดตัน จนมีคนที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

น้ำมันปลากับน้ำมันตับปลา ไม่เหมือนกันแม้จะมาจากปลาเช่นเดียวกันก็ตาม 
น้ำมันปลา ได้จากการสกัดน้ำมันจากส่วนเนื้อปลา หนัง หัวและหาง ของปลาทะเลหลายชนิด
น้ำมันตับปลา สกัดจากตับของปลาทะเล นิยมรับประทานเพื่อเสริมวิตามินดีและวิตามินเอ

ประโยชน์ของน้ำมันปลาต่อสุขภาพ
  1. น้ำมันปลาป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด 
  2. เพิ่มเอชดีแอลคอเลสเตอรรอล ลดไตรกลีเซอไรด์และความดันโลหิต 
  3. ช่วยลดอุบัติการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ทั้งหลอดเลือดหัวใจแข็ง กล้ามเนื้อหัวใจตาย
  4. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หัวใจวาย ลดความหนืดของผนังหลอดเลือด 
  5. เส้นเลือดอุดตัน ความดันโลหิตสูง ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่น
  6. ช่วยป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของเลือด
  7. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบไหลเวียนในโลหิต
  8. ช่วยเสริมให้ผนังเซลล์แข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ผิวยืดหยุ่นดี ไม่แห้งเป็นขุย
  9. มีส่วนช่วยป้องกันและรักษาอาการปวดศีรษะหรือไมเกรน
  10. ช่วยให้เส้นประสาทตาแข็งแรง ลดโอกาสเป็นต้อกระจก
  11. ช่วยลดอาการอักเสบของไขข้อ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ ในผู้ป่วยโรคเก๊าท์หรือไขข้ออักเสบ
  12. บรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมของโรคปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์
  13. บำรุงระบบประสาทและสมอง ทำให้ความจำและความสามารถในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นลดการอักเสบของโรคสะเก็ดเงินหรือโรคเรื้อนกวาง
  14. ลดอาการซึมเศร้า
  15. ช่วยรักษาทางเคมีบำบัดดีขึ้น ลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัด
รับประทานอย่างไร ให้ได้ปริมาณที่ดี
การรับประทานปลาทะเลสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็อาจได้ประโยชน์จากน้ำมันปลาเพียงพอ
ปลาทะเลที่มีน้ำมันมาก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอรเรล ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
มีไขมันโอเมก้า 3 สูงถึง 1-4 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัม ส่วนปลาทะเลไทยที่มีไขมันในกลุ่มโอเมก้าสูงเช่น ปลาทู มีน้ำมันปลา 2-3 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัม ปลาอีกา ปลากระพง ปลาตาเดียว มีน้ำมันปลา 0.5 - 2กรัม ต่อปลา 100 กรัม

การวิจัยแนะนำให้รับประทานในรูปผลิตภัณฑ์เสริม ช่วยลดความเสี่ยง การตายจากโรคหัวใจ
วันละ 0.5-1.8 กรัม จากอาหารวันละ 1.5 -3 กรัม ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจเช่นกัน

ทานอย่างไร

ทานพร้อมมื้ออาหาร ตอนเช้ายิ่งดีเพราะร่างกายได้ให้พลังงานเผาพลานไม่ตกค้างในร่างกาย

กรณีไม่เป็นโรคหัวใจ ให้บริโภคปลาให้หลากหลายชนิดปลาทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
น้ำมันจากถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืชที่มีกรดอัลฟาลีโนเลนิคสูง เช่นแฟลกซีด วอลนัท น้ำมันคาโลลา น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ

กรณีเป็นโรคหัวใจ ให้บริโภคกรดอีพีเอและดีเอชเอวันละ 1 กรัม บริโภคปลาทะเลให้มากขึ้น

กรณีมีไตรกลีเซอไรด์สูง  รับประทานกรดอีพีเอและดีเอชเอวันละ 2-4 กรัม จากน้ำมันปลาและปลาทะเล



0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น