วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เพาะหน่อเหรียง


หน่อเหรียง หรือลูกเหรียงส่วนมากเห็นที่ภาคใต้ ไม่ทราบว่าที่อื่นมีหรือไม่ แต่ภาคใต้นิยมกันมากทั้งกินเป็นผักเหนาะ ทั้งแกง ทั้งดอง แล้วแต่ว่า บ้านใหนจะบรรเจิด หรือคิดเมนูยอดฮิตได้  แต่ถ้าเป็นแกงต้องแกงกะทิ ทั้งแกงเนื่้อ แกงหมู  บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมาก แต่กลิ่นก็อีกเรื่องหนึ่งจ้า


ฝักเหรียงแก่ดีแท้


เม็ดเหรียง


ตัดเมล็ดเหรียงตรงรอยหยักหรือส่วนหัว เพื่อให้แตกหน่อ  นำไปแช่น้ำ  1 คืน


นำไปแช่น้ำ  1 คืน ล้างเมือกออก 


เตรียมที่เพาะ ให้น้ำไหลผ่านได้ ใส่ทราย  แล้วโรยลูกเหรียงที่แช่น้ำแล้วลงไปโรยทรายปิดบางๆ

 
 แล้วรดน้ำชุ่ม วันละ 2-3 ครั้ง วางไว้ในที่ร่ม

  
 วันที่ 1 -2 ก็ประมาณนี้ แค่แย้มๆ
 
 
  พอได้วันที่ 3 ก็ถอนมาเอาเปลือกออกตัดปลายราก  ถ้าไว้นานหน่อจะยิ่งยาว

 
ขุดมาล้างทรายออกก่อนแล้ว แกะเปลือกออก เอาไว้แกง และเหนาะ ตามสะดวก

  
แกงกับหมู แกงกับเนื้อ ก็อร่อย
 
  
หรือจะลวก ไว้ดอง ก็ดี
 
 
ถ้าขาย แพงนะกิโลละ 200 - 250 บาท เชียวนะ

 

ต้นเหรียง จัด เป็นเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง มีลำต้นเป็นเปลาตรง มีความสูงได้ถึง 50 เมตร
มีพูพอนสูงถึง 6 เมตร ลักษณะโดยทั่วไปจะคล้ายคลึงกับสะตอ แต่จะแตกต่างกันตรงที่พุ่มใบของต้น
เหรียง มักจะเป็นพุ่มกลม ไม่แผ่กว้างมากนัก และมีพุ่มใบแน่นและเป็นสีเขียวทึบกว่าพุ่มใบของสะตอ เปลือกต้นเรียบ ที่กิ่งก้านมีขนปกคุลมขึ้นอยู่ประปราย และเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงสว่างและพื้นที่ค่อนข้างชุ่มชื้น มักจะเริ่มผลัดในในช่วงที่ออกช่อดอก และใบจะหลุดร่วงจนหมดต้นเมื่อผลเริ่มแก่พร้อม ๆ ไปกับใบอ่อนที่จะเริ่มผลิออกมาใหม่ ส่วนวิธีการปลูกต้นเหรียงจะนิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดเป็นหลัก นอกจากนี้ยังสามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่น ๆ ได้อีก เช่น การตัดกิ่งปักชำและการติดตา แต่ไม่เป็นที่นิยม

ผลเหรียง หรือ ฝักเหรียง ผลเป็นฝักกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 22-28 เซนติเมตร ตัวฝักตรงไม่บิดเวียนเหมือนกับสะตอบางพันธุ์ และเมล็ดก็ไม่นูนอย่างชัดเจน ฝักเมื่อแก่เต็มที่เปลือกจะแข็งและมีสีดำ ในแต่ละฝักจะมีเมล็ดลักษณะเป็นรูปไข่ มีขนาดประมาณ 11 x 20 เซนติเมตร หนึ่งฝักมีเมล็ดประมาณ 20 เมล็ด โดยจะออกผลหรือฝักในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม และฝักจะแก่ในช่วงประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์


ลูกเหรียง หรือ หน่อเหรียง มีลักษณะคล้ายกับถั่วงอกหัวโตแต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีสีเขียว
มีรสมันและกลิ่นฉุน เกิดมาจากการนำเมล็ดเหรียงของฝักแก่ไปเพาะในกระบะทรายเพื่อให้เมล็ดงอกราก และมีใบเลี้ยงโผล่ขึ้นมาเหมือนกับถั่วงอก จึงจะสามารถนำมารับประทานได้ (เมล็ดเหรียงนั้นมีเปลือกแข็งจึงไม่สามารถรับประทานได้โดยตรง

บางภาพจากอินเตอร์เน็ต เรียบเรียงโดยบ้านบิวเบสท์

2 ความคิดเห็น :