วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

น้ำเอ๋ย น้ำผึ้งเดือนห้าที่ว่าหวาน



น้ำผึ้งเดือนห้าโบราณเขาว่า ดีเหลือหลาย ดีอย่างไร ดีแค่ใหน ต้องเป็นน้ำผึ้งแท้เท่านั้น น้ำผึ้งแท้
ที่เขาใช้แต่โบราณนั้น ทั้งทาแผล ทาหน้า ประสานยา และกินเพื่อสุขภาพ เมื่อสมัยก่อนน้ำผึ้งก็ต้อง
มาจาก ผึ้งป่า หรือ ผึ้งโพรง ที่ทำรังอยู่ที่ตามต้นไม้ต่างๆ ตอนที่เป็นดอกสะพรั่ง รสชาด กลิ่น และสี
ก็ไปตามชนิดของดอกไม้หรือน้ำหวานที่ผึ้งไปเก็บมา มีทั้งสีเหลืองอ่อน ไปจนเหลืองเข้ม  รสชาด
หวานบาดใจ


แถวๆบ้านเขาก็จับผึ้งกันเหมือนกัน แล้วมาคั้นบีบเอาน้ำผึ้ง เมื่อได้น้ำผึ้งแล้วก็นำไปใส่ขวดแล้ว
ใช้ทางสาคูแห้ง ปิดปากขวด เพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนหรืออะไรไม่ทราบ แต่ถ้าปิดด้วยฝาปิดจะทำ
ให้มี ความร้อนขวดน้ำผึ้งจะระเบิดได้ คนที่จับเขาบอกมาเช่นนั้นจ้า ปีละครั้งเท่านั้นที่จะจับผึ้งให้ได้
น้ำหวาน


เพราะเป็นของดีที่มีอยู่ในธรรมชาติ และถือว่าเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 
สำหรับผู้ที่รับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง เพราะในน้ำผึ้งมีสารอาหารอยู่
มากมายที่เป็นประโยชน์  น้ำผึ้งดีมีประโยชน์และคุณภาพนั้น  ได้มาจากป่า หรือเลี้ยงตามสวนผลไม้ 
ทั้ง 2 อย่าง ดีเหมือนกัน  แต่น้ำผึ้งที่อุดมด้วยแร่ธาตุ วิตามินหรือน้ำผึ้งที่คนเราต้องการนั้น  
ต้องเป็นผึ้งป่าหาเกสรตามธรรมชาติ   ไม้ป่ามีรากดูดแร่ธาตุจากดินที่ขึ้นอยู่ เมื่อออกดอก
ผึ้งก็ดูดน้ำหวานไป  


แต่เดี่ยวนี้เขานิยมเลี้ยงกันมาก น้ำผึ้งจึงไม่แท้เท่าที่ควรเพราะจะเลี้ยงผึ้งด้วยน้ำหวานด้วย เวลาที่เรา
ทิ้งไว้นานๆ จะมีตะกอนของน้ำตาลที่ท้ายขวด หรือคนทำขายเขาเคี่ยวน้ำตาลลงไปผสมในน้ำผึ้งนิดหน่อยเพื่อให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น แต่จะเก็บไว้ได้ไม่นาน


ผึ้งเลี้ยง ตามสวนผลไม้เจ้าของสวนเขาหาปุ๋ย แร่ธาตุ ทั้งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ฯลฯที่ขายกันทั่วไป
นำมาใส่ให้ต้นไม้ ต้นไม้กินจนอิ่มหมีพลีมันดูดปุ๋ยดูดแร่ แร่ธาตุต่างๆก็ไปบำรุงต้น บำรุงใบ ดอก ผล


ทีนี้คนเราก็บริโภคน้ำผึ้งกัน  ลองคิดดู  คิดว่าอย่างไหนดีกว่ากัน  น้ำผึ้งป่า  หรือน้ำผึ้งเลี้ยงจากสวน
น้ำผึ้งแท้แม้จะเก็บไว้นานจะเปลี่ยนแค่สีที่เข้มขึ้น


ถ้าเราอ่อนเพลีย หรือเลิกจากการทำงานแล้วรู้สึกเหนื่อยๆ ลองดื่มน้ำผึ้ง ประมาณ 1 ช้อนแกง 
2 ชั่วโมงต่อมา  จะรู้สึกว่าร่างกายเรากระฉับกระเฉ็งขึ้น 

คนที่เป็นโรคเบาหวานไม่ควรรับประทานหรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน


แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า น้ำผึ้งที่เรามี หรือเราได้มานั้นจะแท้หรือเทียม ต้องพิสูจน์ กันสักหน่อยแล้วละจ้า

วิธีการทดสอบง่ายๆ คือ 

วิธีที่ 1. ให้นำเอาน้ำผึ้งไปหยดลงบนกระดาษทิชชูเพื่อตรวจสอบดูการดูดซึมถ้าเป็นของแท้ 
วงของน้ำผึ้งจะไม่ขยาย แต่ถ้าเป็นของปลอมวงจะขยายกว้างขึ้น 

วิธีที่ 2. คือการใส่น้ำผึ้งลงไปในน้ำชา (ชาจีน) แล้วคนให้เข้ากันถ้าน้ำชาเปลี่ยนสีเป็นสีคล้ำ 
แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม แต่ถ้าน้ำชาไม่เปลี่ยนสีแสดงว่าเป็นของแท้ 

วิธีที่ 3. จะใช้วิธีจุ่มไม้ขีดลงไปในน้ำผึ้ง ถ้าจุดไฟติด  แสดงว่าเป็นของแท้

วิธีที่ 4. ให้เอาน้ำผึ้งไปเเช่ในตู้เย็นดู ถ้าเป็นน้ำผึ้งเเท้จะยังคงสภาพเดิม อาจจะมีขี้ผึ้งบ้างเล็กน้อย
ให้วางเเนวตั้ง อย่าวางเเนวนอนเพราะน้ำผึ้งเเท้จะไม่ปิดฝาให้สนิท เพราะว่าถ้าปิดสนิดน้ำผึ้งจะระเบิดได้
เเต่ถ้าน้ำผึ้งปลอมจะมีการเเบ่งตัวเป็นชั้น เเล้วเเต่ว่าจะผสมน้ำตาลมากหรือน้อย

วิธีที่ 5. เอาน้ำผึ้ง มาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ในจานที่ใช้ทานข้าว แล้วเอาน้ำใส่ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วใช้มือแกว่งจาน ให้ทำลักษณะหมุนวน หากน้ำผึ้งแท้ ภายในจานจะปรากฎเป็นรูปเหมือนรังผึ้ง
ปรากฎให้เห็น ลองทดลองดู

ทดสอบแล้ว น้ำผึ้งแท้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นกลิ่นดอกไม้ ร่วมกับกลิ่นรัง และไขผึ้ง
ส่วนน้ำผึ้งของปลอม ไม่มีกลิ่นนี้ หรือมีแต่เบาบางมากๆ ของแท้ต้องชิมดูรสชาดความหวานต่างกัน
อย่าซื้อของเร่ขาย  ถ้าอยากซื้อให้ทดสอบดู

แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด เพื่อความปลอดภัยควรซื้อน้ำผึ้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีเครื่องหมายการ
ค้ารับรองจึงจะได้น้ำผึ้งที่สะอาดปลอดภัยอย่างแท้จริง

ประโยชน์ นั้นมีมากมาย เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น
ฟรุกโทสกับกลูโคส และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม
ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี เป็นต้น สำหรับสารประกอบอื่นๆที่มีอยู่ในปริมาณเพียงน้อยนิดนั้นจะเป็นสารที่ทำ หน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นหลัก

ประโยชน์ของน้ำผึ้งมีดังนี้

  1. ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
  2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
  3. ช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  4. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ดูมีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติ
  5. พอก หน้าด้วยน้ำผึ้งช่วยบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่นและนุ่มนวล หลังล้างหน้าเสร็จให้         นำกล้วยหอม 1/2 ลูก นำมาบดผสมรวมกับน้ำผึ้งแล้วยำมาทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที         แล้วล้างออก
  6. ช่วย บำรุงรักษาผิวหน้าที่แห้งแตกลอกเป็นขุย ด้วยการนำไข่แดง 1 ฟองผสมกับน้ำผึ้ง               ผสม 1 ช้อน คนให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
  7. ช่วยบำรุงสมอง ช่วยในเรื่องของความจำ
  8. ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนัง
  9. ช่วย บำรุงเส้นผมให้นุ่มสวยเงางาม หลังสระผมเสร็จให้นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำมะกอก                  อย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก
  10. ช่วยบำรุงเสียงให้ใส ลดอาการเจ็บคอ
  11. ช่วย ลดสิวเสี้ยน สิวอุดตันบนใบหน้า หลังล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเสร็จแล้ว ให้นำกล้วยหอม 1/2 ลูก   นำมาบดผสมรวมกับน้ำผึ้งแล้วยำมาทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
  12. นิยมนำมาใช้ผสมในเครื่องต่างๆ เช่น นม ชา กาแฟโยเกิร์ต น้ำมะนาว หรือ เบียร์หรือไวน์
  13. นำมาใช้เป็นส่วนผสมในขนมหวานต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ธัญญพืชต่างๆ
  14. ใช้น้ำผึ้งแทนสารกันบูดในน้ำสลัด ซึ่งจะทำให้น้ำสลัดไม่เสียและเก็บได้นานถึง 9 เดือน
  15. น้ำผึ้งสามารถนำแปรรูปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น มาส์กหน้า สบู่ เจลล้างหน้า สครับ  
  16. น้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ
  17. ช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงต้านทานโรคต่างๆได้ดี
  18. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตในวัยเด็ก
  19. ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
  20. ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการทำงานหรือเล่นกีฬา
  21. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของผู้ป่วยในระยะพักฟื้น หรือผู้สูงอายุ
  22. ช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆให้ดีขึ้น
  23. ช่วยในควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วน
  24. ช่วยบำรุงเลือดในร่างกาย ด้วยการใช้น้ำผึ้งครึ่งช้อนโต๊ะใส่แก้ว แล้วบีบมะนาว 1 ซีก ใส่              เกลือเล็กน้อย แล้วเติมน้ำร้อนดื่ม
  25. ช่วยรักษาอาการหวัดให้หายเร็วขึ้น
  26. น้ำผึ้งสามารถบรรเทาอาการไอจากหวัดในเด็กได้ดีกว่ายาแก้ไอ
  27. ช่วยรักษาอาการเมาค้าง
  28. ช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่
  29. น้ำผึ้งมีฤทธิ์ยาระงับประสาทอ่อนๆ จึงช่วยลดอาการหงุดหงิด ความกังวลได้
  30. ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ และช่วยทำให้หลับสบายยิ่งขึ้น
  31. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้น้ำผึ้งและงาดำอย่างละ 50 กรัม โดยนำงาดำมา        ตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำผึ้ง ชงกับน้ำร้อนดื่ม
  32. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้สาลี่หอมจำนวน 5 ลูก น้ำผึ้ง 250 กรัม โดยปอกลูกสาลี่แล้ว   ตำให้ละเอียด นำไปคลุกกับน้ำผึ้งแล้วต้มจนเหนียว แล้วนำมาผสมกับน้ำกิน
  33. ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของธาตุเหล็กซึ่งช่วยในการเพิ่มเม็ดเลือดแดง
  34. ช่วยบำรุงหัวใจ ขับชีพจร และป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
  35. ช่วยบำรุงและรักษาโรคตับ
  36. ช่วยระงับความร้อนในร่างกาย
  37. ช่วยรักษาอาการตาอักเสบจากการติดเชื้อ เช่น กระจกตาอักเสบ เยื่อตาอักเสบ เป็นต้น
  38. ช่วยบรรเทาอาการไอ หลอดลมอักเสบมีเสมหะ ด้วยการชงดื่มกับน้ำมะนาว
  39. น้ำผึ้งช่วยลดกรดในกระเพาะ ช่วยในการย่อยอาหาร เพราะน้ำผึ้งจะถูกดูดซึมทันทีเมื่อถึงลำไส้   ซึ่งต่างจากน้ำตาลชนิดอื่น
  40. ช่วยรักษาโรคกระเพาะ
  41. ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียอย่างรุนแรง
  42. ช่วยแก้อาการท้องเดิน และช่วยบำรุงลำไส้ที่อักเสบให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
  43. ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแคนดิดา (Candida) ได้ดีพอๆกับยาฆ่าเชื้อแผนปัจจุบัน
  44. ช่วยแก้อาการเด็กปัสสาวะรดที่นอนเป็นประจำ เพราะช่วยดูดความชื้นและช่วยอุ้มน้ำไว้
  45. ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการนำกระเทียมผสมกับน้ำผึ้ง                                รับประทานวันละ  3 ครั้ง
  46. ช่วย ป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ ด้วยการใช้น้ำส้มนำมาผสมกับแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชา     ลงในน้ำร้อน แล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ชงดื่มวันละ 2 ครั้ง
  47. ช่วยแก้อาการตะคริว หรือป้องกันการเป็นตะคริว
  48. ช่วยแก้อาการท้องผูก ด้วยการรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มกับน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกได้    หรือใช้กล้วยน้ำว้าดองกับน้ำผึ้งรับประทาน เป็นยาอายุวัฒนะ 
  49. ช่วยลดการอักเสบของบาดแผล
  50. ช่วยป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลและช่วยให้แผลหายเร็ว
  51. ช่วยรักษาโรคฮ่องกงฟุต และกลาก เกลื้อน
  52. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและต่อต้านจุลินทรีย์
  53. ช่วยแก้ปัญหาเด็กแหวะนม โดยใช้น้ำผึ้งผสมกับนมดื่ม
  54. ใช้เป็นน้ำกระสายยา

ควรใช้อย่างระมัดระวัง หรือศึกษาให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่ สิ่งของทุกอย่างมีประโยชน์และ       มีโทษเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นของดีเมื่อใช้เกินก็จะเกิดโทษได้เช่นกัน

ด้วยความปรารถนาดี จากบ้านบิวเบสท์

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น