วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563


                                                         รังเผือกทอด  


วันนี้ นำเสนอเมนูเผือก ที่ไม่เผือก ตะกร้าเผือกสวยๆ ใช้ทำเป็นภาชนะ สำหรับใส่เมนูอาหาร เช่น ยำ พล่า สลัด หรือ ทอดกรอบๆ แล้วทำน้ำจิ้มก็อร่อย ขั้นตอนก็ง่าย ปอกเปลือก หั่นฝอย ผสมแป้ง ทอดๆ  มาดูวิธีทำกันเลยคะ

ขั้นตอน
1. ปอกเปลือก แล้วล้างไห้สะอาด ซอยเป็นเส้นๆ ปริมาณตามต้องการ แล้วล้างน้ำเกลือและน้ำสะอาด ผึ่งในตระแกรงให้แห้ง

2. นำเส้นเผือกมากคลุกกับแป้ง จะใช้แป้งทอดกรอบ หรือแป้งอเนกประสงค์ก็ได้

 
3. นำถ้วยหรือชามขนาดพอเหมาะ เรียงเส้นเผือกลงไป ต้องแบบทนความร้อนเพราะต้องนำลงกระทะ

 
4. ตั้งน้ำมันไว้ทอด น้ำมันต้องท่วม ใช้ไฟแรง พอร้อนลดเป็นไฟกลาง เผือกลอยจากถ้วย นำถ้วยออก ทอดต่อจนเหลืองกรอบแล้ว ยกขึ้น สะเด็ดน้ำมัน นำไปไช้เป็นภาชนะ รองอาหาร หรือ ทำน้ำจิ้ม เป็นอาหารว่าง


  




 

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

  สาคูแท้ จากต้นธรรมชาติ  


จากต้นสาคู สู่แป้งสาคูแท้ 100 % มาจากไหน กว่าจะได้แป้งต้องทำอย่างไร 
ตอนผู้เขียนยังเป็นเด็กน้อย ประมาณ 8 ขวบ สมัยนั้นคุณตาผู้เขียนเป็นนักโค่นต้นสาคู เพราะมีต้นสาคุูอยู่ริมบ้านเยอะ ที่บ้านคุณตาอยู่ใกล้ คลอง จึงมีต้นสาคูขึ้นและเจริญเติบโต สวยงามมาก ต้นใหญ่ๆ ใบโตๆ เขียวสด และคุณยายก็เลี้ยงเป็ดด้วย สาคูเลยกลายเป็นอาหารเป็ดโดยปริยาย  
ส่วนการทำสาคูนั้น ขั้นตอนเยอะ มาดูว่าทำกันอย่างไร

ภาพจากอินเตอร์เน็ต https://www.thaimunglive.com/
ผู้เขียนจะนำร่องก่อนว่า สาคูนั้นทำอะไรได้บ้าง 
1.ใบ นำมาทำเย็บทำเป็นวัสดุมุงหลังคาบ้าน
2. ต้นแก่ นำมาทำเป็นอาหารไห้ เป็ด ไก่ โดยการนำมาขูดแยกเนื้อกับเปลือก นำมาเป็นอาหารไห้เป็ด ไก่ 
3. ต้นแก่ นำมาทำแป้งสาคู
4. ต้นแก่  นำมาผ่าเป็น ท่อนๆ ให้กวางด้วงวางไข่ เป็นตัวด้วย อ้วนกลม ขาวอวบ แสนอร่อย 
5. ยางสาคู สมัยก่อน สาวๆ เอาไปทาหน้า ไห้ขาว

ขั้นตอน มีดังนี้
1. เลือกต้นสาคูที่แก่ อวบ โต เพราะจะมีแป้งมาในต้นสาคู ได้เวลาโค่นต้นสาคู  แล้วตัดเป็นท่อนๆ พอประมาณ เพราะต้นใหญ่มีน้ำหนักมาก แบกไม่ไหว

2. นำท่อนสาคูมาฝ่าเป็นซีกแล้ว ฝนเอาเนื้อไม้ออกมาด้วย ‘เล็บแมว’ ไม้ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ มีด้ามจับ ตอกด้วยตะปูเรียงแถวต่อกัน แล้วถูๆ บนเนื้อสาคู จนหมดเหลือแต่เปลือก

ภาพจากอินเตอร็เน็ต https://www.thaimunglive.com/
3. นำเนื้อสาคูที่ได้ เอามา (ตำ)จนเนื้อไม้ละเอียด เตรียมกะละมังขึงผ้าขาวบางไว้ 3 ใบ สำหรับคั้นเอาเนื้อแป้งน้ำสะอาด ในการคั้นแต่ละครั้ง แป้งสาคูจะลอดผ่านผ้าขาวบางลงไปในกะละมัง ทำครบ 3 น้ำ จะได้จำนวนแป้งมาก 

 

4. ทำแป้งสาคู นำแป้งสาคูสดห่อผ้าขาวบาง ใช้ไม้ทุบพอละเอียดแล้วนำไปตากแดด ถ้าแดดจัด สองแดดก็พร้อมใช้งาน หรือเอาแป้งสาคูสดกำลังหมาดมาร่อนด้วยถาดจะได้แป้งสาคูเม็ดกลมสวย ตากแดด
 การร่อน ต้องร่อนช้าๆ ไห้เม็ดกลม ใหญ่สวย เท่าๆกัน

5. หากเป็นเศษแป้งที่แตกจาก เม็ดสาคู ก็นำมาทำเป็นแป้งขนมสาคูใส่ไส้ได้อีกด้วย ไม่เสียของ 


ข้อสังเกตผ้าขาวบางจะกลายเป็นสีน้ำตาล เพราะยางของสาคูทำให้ผ้าเปลี่ยนสี พอปั้นเนื้อไม้จนครบ 3 น้ำ ลองเปิดผ้าขาวบางออกดูจะเห็นเนื้อแป้งสาคูสด สีขาวปนน้ำตาลเนื้อนวลเนียน


ขั้นตอนการทำ มีดังนี้.











วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

 

ท่านๆรู้รึมั๊ย น้ำชา กาแฟ นั้นปริมาณน้ำตาล ที่เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มนั้นๆ เท่าไหร 
ผู้เขียนซื้อกาแฟสำเร็จรูปมากิน แต่ไม่ได้ใช้ช้อนกวน เครื่องดื่มจึงเห็นว่าน้ำตาลน้ำมากขนาดไหน 

คนไทย บริโภคน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มาก จึงทำไห้เกิดเป็นโรคความดัน เบาหวาน โรคอ้วนจากเครืื่องดื่ม ที่บริโภคเข้าไป

เพื่อลดความเสี่ยงของโรคร้ายชนิดต่าง ที่น้ำตาลเป็นส่วนส่งเสริมไห้เกิดโรค ควรบริโภคน้ำตาลที่พอประมาณ กับวัยและอายุ

 


ลดการบริโภคน้ำตาล เพื่อหลีกเลี่ยงโรคอ้วน ตัดวงจรการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมต่อวันของแต่ละช่วงอายุ
 (กองโภชนาการ, กรมอนามัย) มีดังนี้

           เด็กและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 16 กรัม ต่อวัน หรือเทียบได้กับ
น้ำตาล 4 ช้อนชา

           วัยรุ่นหญิงชาย อายุ 14 – 25 ปี ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม ต่อวัน หรือเทียบได้กับน้ำตาล 6 ช้อนชา

           หญิงชายที่ใช้พลังงานมาก ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 32 กรัม ต่อวัน หรือเทียบได้กับ
น้ำตาล 8 ช้อนชา

     หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ควบคุมการบริโภคน้ำตาลคือ การเปลี่ยนมาใช้น้ำตาลซองเพื่อชงชา กาแฟ เป็นขนาดบรรจุไม่เกิน 4 กรัมต่อซอง


วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

  
บัวบก ประโยชน์ หลากหลาย
เป็นสิว เป็นฝ้า หน้าไม่ใส เพราะติดสารเคมี มีริ้วรอยแห่งวัย หันหน้ามาสู่ธรรมชาติ ด้วยการพอกหน้าด้วย
พืชที่ชื่อว่า บัวบก นอกจากนั้นนำมาพอผิวที่แสบไหม้ได้ดีอีกด้วย

 
หน้าติดสารสเตย์รอย เป็นจุดด่างดำ เป็นริ้วรอย บัวบกช่วยได้ พอก ทา หน้าขาวใส
บัวบก ช่วยละลอวัย ลดริ้วรอย

นอกจากนี้บัวบกนำมาปั่น ทำเป็นน้ำบัวบกกินคลายร้อนได้อีก ประโยชน์มากมายเพราะบัวบกเป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน กระหายน้ำ และนำมาทำเป็นผักในมื้ออาหาร ได้อีกด้วย

ทางยาใช้ขับความร้อน ขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้บวม ใช้ในอาการไข้หวัดใหญ่ ใช้ในอาหารเป็นพิษ

 

 

มารู้จัก บัวบกกันเถอะ บัวบกเป็นพืชที่ขึ้นง่ายตามที่ชื้นแฉะ เป็นไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน ใบกลมประมาณ นิ้วครึ่ง ริมใบจัก 

ยาไทยกล่าวว่า ใบบัวบกเป็นยาบำรุง รักษาโรคผิวหนัง โรคประสาท ขับปัสสาวะ ต้นและใบเป็นยาบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลียเมื่อยล้า แก้ท้องเสีย อาการเริ่มเป็นบิด 

คนจีนใช้ตำละลายน้ำผสมน้ำตาล เป็นยาแก้ร้อนใน แก้ช้ำใน แก้อ่อนเพลียได้ดี 
สรรพคุณในตำราจีนกล่าวว่า ใบมีรสขมเล็กน้อย เผ็ดเล็กน้อย เย็นจัด หรือหนาว 

 
การพอกหน้า ง่ายๆแค่ นำใบบัวบกประมาณ 4-5 ใบ ล้างให้สะอาด 
จะได้น้ำเข้มข้นที่จะนำมาพอกหน้า บดขยี่ไห้ละเอียด เอาแต่น้ำผสม ทานาคา รึ แป้งดินสอพอง 

จะใช้ส่วนที่เป็นใบด้วยก็ได้ ผสมลงไปไห้เข้ากัน พอกทิ้งไว้  20 นาที ล้างออก ล้างด้วยน้ำเย็นๆอีกครั้ง รู้สึกหน้าเนียน เย็นผิวสามารถทำได้ทุกวัน ทุกวัย ใช้แล้วรู้สึกเย็น สบาย รอบดวงตาก็พอกได้


   

 
 แล้วแต่ความเข้มข้นของใบบัวบก และส่วนผสม ของทานาคา รึดินสอพอง สีเขียวจะไม่เหมือนกัน