วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

โปรโคดิล ยาอันตรายชนิดใหม่






จากคลิปที่เด็กมัธยมย่านสามเสนเสพโปรโคดิล ชักหมดสติจนเพื่อนลงไปช่วย
ตรวจพบยาน้ำ ยาเม็ดผสมน้ำอัดลมดื่ม ตำรวจดำเนินคดีไม่ได้เพราะไม่ใช่สารเสพติด 
เด็กเริ่มติด เป็นการลองดื่มคล้ายดื่มเหล้า แพทย์ชี้ตัวยาแก้ปวดมีส่วนผสมของฝิ่น 
หากเสพปริมาณมากอาจชักและเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นโชคดีของน้องคนนั้นที่มีเพื่อนดีๆ 
อยู่ในสังคมนี้ เขาเหล่านั้นช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะหายากในยุคสมัยนี้



นายแพทย์ปฏิพัทธ์ วุฒิวิทยารักษ์ แพทย์ชำนาญการ ศูนย์บริการสาธารณสุข
๔๒ ถนอมทองสิมา เปิดเผยว่า ยาโปรโคดิล  ไม่ถือเป็นสารเสพติดตามกฏหมาย แต่ทางพฤติกรรม
ถือเป็นยาเสพติดได้ ยาเม็ดที่นำมาผสมโปรโคดีล เป็นกลุ่มยาแก้ปวด มีส่วนผสมของฝิ่นอยู่ด้วย
ทำให้ลดอาการเจ็บปวดได้ ส่วนมากมักใช้ในคนไข้ที่ผ่าตัด ผลข้างเคียงของยาจะทำให้คลื่นไส้อาเจียนเยอะ

ส่วนตัวที่เป็นยาน้ำ เป็นยาแก้แพ้ ผลข้างเคียงมีหลายอย่าง อย่างแรก ทำให้ง่วงนอน กดประสาท
และกดการหายใจได้ เป็นกลุ่มยาที่ค่อนข้างอันตรายจะทำให้มีไข้สูงและชักได้ ถ้ากินในปริมาณ
มาก อาจทำให้หยุดหายใจและเสียชีวิตได้ อันตรายอีกประการหนึ่งของยาชนิดนี้ คือ ส่งผลต่อ
ความดันผิดปกติ การนำยาเหล่านี้มาผสมกับน้ำอัดลม จะออกฤทธิ์เพิ่มมากกว่าเดิม


สถานีตำรวจนครบาลสามเสนว่า ขณะนี้นักเรียนมัธยมย่านสามเสนหลายคนติด
ยาโปรโคดิล ซึ่งเป็นยาแก้แพ้ชนิดน้ำสำหรับเด็ก นักเรียนเหล่านี้จะนำมาผสมคู่กับ
ยาแก้ปวดชนิดเม็ด เติมน้ำอัดลม ชงดื่ม แพร่ระบาดมาก เพราะเด็กสามารถซื้อยาโปรโคดิล
ได้ง่ายกว่า เหล้า เบียร์ แต่ออกฤทธิ์ให้ความรู้สึกเมาคล้ายกัน ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์
 และไม่ผิดกฎหมาย



นักเรียนชั้นมัธยมคนนี้บอกว่า เป็นคนไม่ดื่มเหล้า เบียร์ก็ไม่ดื่มเพราะมีรสขม ปีที่ผ่านมา
มีเพื่อนต่างโรงเรียนมาแนะนำให้รู้จัก ยาโปรโคดิล

 ราคาชุดละ ๑๓๐ บาท  (ยาโปรโคดิล ๑ ขวด ยาแก้ปวดชนิดเม็ด ๑๐ เม็ด)

 นำมาผสมกับน้ำอัดลม ทำให้ยาโปรโคดิล มีรสหวาน เมื่อดื่มไปแล้วจะมีอาการเมาคล้ายดื่มเหล้า
และง่วง บางครั้งจะคันตามเนื้อตัว
เวลานี้แพร่หลายมากในกลุ่มมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย "บางคนกินเกินขนาด จะชักและหายเอง 
คล้ายเป็นลมบ้าหมู" เวลาที่ไม่ได้กินจะร้อน ๆ หนาว ๆ เหมือนคนเป็นหวัด ปวดเนื้อ ปวดตัว
ถ้าไม่กินประมาน ๒ - ๓ วัน จะครั่นเนื้อครั่นตัว มันทำให้อยากกิน  นักเรียนส่วนมากจะนำมาผสม
ดื่มที่โรงเรียน จะไปดื่มช่วงหลังเลิกเรียนเป็นกลุ่มกับเพื่อน เหมือนกับการสังสรรค์

ถ้าจะ ขอซื้อ ยาโปรโคดิล ชุดหนึ่ง คนขายจะส่งยา ๑ ชุด มียา ๒ ชนิดคู่กัน คือยาแก้แพ้ชนิดน้ำและ
ยาแก้ปวดชนิดเม็ด ซึ่งเป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรง

 เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ยาที่นำมาผสมยาโปรฯ สามารถขายในร้านขายยาได้ทุกร้าน 
แต่ทางร้านจะต้องทำบัญชีส่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และบริษัทยาต้องทำ
บัญชีส่ง อย. ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีข้อกำหนดว่า ในระยะเวลา ๑ เดือน แต่ละร้านสามารถขาย
ยาโปรโคดิล ได้ไม่เกิน ๓๐๐ ขวด ในการสั่งซื้อยาชนิดนี้กับบริษัทยา
จะต้องมีใบสั่งจากเภสัชกรเท่านั้น

ยาอีกชนิดหนึ่งที่นำมาผสมกับโปรโคดิล คือยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุข
ขอความร่วมมือในการควบคุมยาจากร้านขายยาให้หลีก เลี่ยงการจ่ายยาแก่เด็กวัยรุ่น และจำกัด
การจำหน่ายได้ไม่เกิน ๒๐ เม็ดต่อคน ล่าสุด ชนิดยาที่วัยรุ่นนำไปใช้เพิ่มขึ้น คือกลุ่มยาแก้ไอที่มี
รสหวาน ไม่จำเป็นต้องเป็นยาแก้แพ้อย่างเมื่อก่อน

นักเรียนที่นำยาแคปซูลสีเหลืองเขียว (ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง) มาโรงเรียน อาจารย์ไม่สามารถ
ทำอะไร ได้เพราะไม่เหมือนกับยาเสพติดที่ตรวจฉี่แล้วรู้ว่านักเรียนคนนี้เสพ  แต่เด็กที่เสพ
ยาโปรโคดิล นั้นเราสามารถรู้ได้ด้วยอาการผิดปกติ เช่นคล้ายคนเมา ไม่มีกลิ่นเหล้า
ทำได้แค่ตักเตือนสั่งสอนแล้ว เชิญผู้ปกครองมาพบ ต้องนำนักเรียนมาปรับพฤติกรรม
มาตรการอ่อนและแข็งสลับกันไป

อาการของ เด็กที่ติดยาโปรโคดิล   มีอาการติดยาโปรฯ สะลึมสะลือ พูดไม่รู้เรื่อง คล้ายคนเมา
เซื่องซึม เหมือนคนง่วงตลอดเวลา หากวันไหนไม่ดื่ม จะดูสดใสมีชีวิตชีวา เป็นคนละคน

เด็กมีปัญหามากในเรื่องการเสพยาโปรโคดิล  ซึ่ง "ร้านขายยาบางแห่ง เด็กต่อแถวซื้อเลย
เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เพราะเด็กที่ไปซื้อส่วนใหญ่สวมชุดเครื่องแบบนักเรียน เห็นเลยว่ามา
จากโรงเรียนไหนบ้าง มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ตั้งแต่มัธยมต้น จนถึงเด็กมัธยมปลาย"
และยังได้รับการแจ้งมาจากประชาชนว่ามีเด็กมั่วสุมในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า
มี ยาชนิดนี้ แต่เด็กจะอ้างว่าเป็นการดื่มน้ำอัดลม ตำรวจเอาผิดไม่ได้  ทุกวันนี้น่าเป็นห่วงมาก
เพราะยาโปรโคดิล ไม่ใช่ยาเสพติด วางขายทั่วไปตามร้านขายยา 
แต่มีอันตรายคล้ายยาเสพติด

มีบางโรงเรียนที่เด็กนำมากินกันแล้วนักเรียนหญิงเป็นผู้หญิงกินแล้วชัก แล้วก็นำส่งโรงพยาบาล
ล้างท้องเกือบไม่ทัน ดังที่เป็นข่าวโดยเพื่อนๆ ยังช่วยกันนำร่างของน้องผู้หญิงส่งโรงพยาบาล
ได้อย่างทุลักทุเลเต็มที่ เป็นความโชคดีของน้องผู้หญฺิงที่ยังมีเพื่อนๆ คอยเป็นห่วง ถึงแม้จะถลำ
กับสิ่งที่ไม่สมควร แต่เพื่อนๆก็ยังช่วยกันจนสุดความสามารถจนได้ไปโรงพยาบาล


ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์กำแพงแดง เรียบเรียงโดยบ้านบิวเบสท์

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น