วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คำคมดีๆ มีคุณค่า 

 

*หากคนในครอบครัวอยู่กันอย่างปรองดอง รักใคร่
  จะกระทำงานสิ่งได  ย่อมประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง  
*หัวหน้าครอบครัวมีเหตุผล ลูกหลานล้วนย่อมมีเหตุผล
*ไม่เลี้ยงดูบุพการี ยามมีชีวิต ไปเซ่นไหว้บูชาเมื่อตายแล้ว เพื่ออันใด
*เรือขาดหางเสือ ย่อมแล่นไปโดยไร้ทิศทางที่แน่นอน

*เรื่องในบ้าน พึงเก็บไว้เป็นเรื่องภายในบ้าน  เรื่องนอกบ้าน พึงให้เป็นเรื่องนอกบ้าน อย่านำเข้าบ้าน
*หากดูแลปกครองครอบครัวให้ร่มเย็นเป็นสุขไม่ได้  จะปกครองบ้านเมืองให้ผาสุกรุ่งเรืองได้อย่างไร

*ความอดทน มานะพากเพียร เป็นทรัพย์อันล้ำค่าของทุกครอบครัว
*คิดกระทำการงานธุรกิจใดๆ จะทำเพียงลำพับผู้เดียวไม่ได้
*ขยัน หมั่นเพียร ซื่อสัตว์ ประหยัด ปัจจัยหลักของความเจริญรุ่งเรืองในครอบครัว

*พี่น้องสายเลือดเดียวกัน เป็นเสมือนสายน้ำที่มิสามารถตัดขาดได้
*นกพึ่งฟ้า ปลาพึ่งน้ำ โลกนี้ไม่มีใครอยู่ได้โดยลำพัง
*ควรหมั่นเพียรแวะเวียนไปเยื่ยมญาติมิตร ไม่ว่าจะเป็นยามสุขหรือยามทุกข์



*สลึงเฟื้อง... ก็เงินเหมือนกัน   สินทรัพย์นับล้าน เริ่มจากเงินบาท
*เงินทองทรัพย์สิน มิได้มีไว้เพียงใช้จ่าย  เงินทองเป็นของบาดใจ สะบั้นสายสัมพันธ์ได้ทุกเมื่อ
*เงินหมื่นเงินแสนของเขา แม้อยู่ในมือเรา คงไม่มีค่าเท่ากับเงินร้อยในกระเป๋าของเรา
*ยามใดเมื่อได้จับเงินพัน อย่าลืมเหรียญบาท
*รวยในบ่อน เพียงชั่วไฟวูบ รวยด้วยหน้าที่การงาน โชติช่วงอยู่ตราบเท่าที่ยังหมั่นเพียร
*ไฟไหม้ยังเหลือที่ดิน หมดตัวเพราะการพนัน ไมเหลือแม้มุ้งหมอน
*มีทรัพย์สินมากมายใช่ว่าจะมีความสุขมากมาย คุณงามความดีมีมากเพียงไร ไม่เคยนำทุกข์มาให้
*เป็นหนี้พึงชดใช้ ผู้ใดมีน้ำใจแก่เรา พึงตอบแทน การพึ่งพาผู้อื่น มิใช่ความอ่อนแอ
*ลูกค้าแม้แต่งตัวซอมซ่อกว่าเจ้าของร้าน ก็ย่อมต้องให้การต้อนรับไม่ต่างกับลูกค้าผู้มั่งมี
*ชื่อเสียงเกียรติภูมิกว่าจะหามาได้ ลำบากยากเย็นเพียงใด การักษาไว้กลับยากยิ่งกว่า
*ขยันหมั่นเพียรเพียงใด ก็ควรมีเวลาหยุดพักบ้าง
*กิจการใดสามารถกระทำให้สำเร็จลุล่วงได้ในวันนี้ พึงทำให้เสร็จสิ้นในวันนี้ เวลาเป็นภาระแห่งการ  ดำเนินชีวิต
*ไม่มีกิจการใด ที่ไม่ต้องลงทุน รักในสิ่งที่ทำ แล้วความสำเร็จจะมาถึงโดยง่ายดาย


*การไม่ควดหวัง ว่าจะมีผู้ใดมาหา ย่อมไม่เป็นทุกข์กับการรอคอย
*น้ำใจ.....ยิ่งให้ยิ่งเพิ่มพูน มิตรสหายที่ดี ควรเป็นทั้งกระจกเงาและเทียนส่องทาง
*มิตรสหายต่อให้สนิทกันสักเพียงใด พึงสมควรมีกำแพงกั้นรักษาระยะห่างกันบ้าง
*มิตรภาพกับผลประโยชน์ มักเดินสวนทางกัน ประพฤติตนให้ถูกต้องและดีงาม ก่อนคิดไปสอนสั่งผู้อื่น
*การเอาชนะใจมิตรคนหนึ่ง อาจใช้เวลานานนับสิบปี แต่การเสียมิตรสักคนหนึ่ง 
  อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
*รูปโฉม ความงามของวัตถุ ย่อมมีเสื่อมสูญไปตามกาลเวลา แต่ความดีนั้น อยู่จีรังยั่งยืน
*เพื่อนที่ดีมีความสำคัญต่อเรามากเพียงใด แต่อย่างให้สำคัญมากไปกว่าตัวเราเอง
*ดอกไม้ไม่สามารถบานอยู่ตลอดวันตลอดคืนฉันใด โอกาสที่ดีไม่สามารถอยู่กับเราตลอดไปได้ฉันนั้น
*ศัตรูที่แสดงตนอย่างเปิดเผย อาจจะร้ายกาจ หากมิตรที่เสแสร้ง ร้ายกาจยิ่งกว่า
*จงมองศัตรู เป็นดั่งราชสีห์ อย่าได้คิดว่าเขาเป็นเหมือนหนูเป็นอันขาด
*อยากได้ความจริงใจ ควรหยิบยื่นให้ผู้อื่นก่อน อัตตา คือมิตรและศัตรูของตัวเราเอง
*ความลับจะเป็นความลับ ตราบเท่าที่มี่านล่วงรู้อยู่เพียงผู้เดียว เหมือนกับไม่มีความลับในโลก



*ปัญญาคือ อาวุธ ที่ยิ่งใช้ยิ่งคม คำพูดเหมือนสายน้ำ ไหลผ่านไปแล้ว เรียกคืนไม่ได้
*ทรัพย์สมบัติใช้จ่ายมีวันหมด วิชาความรู้และความดี ใช้เท่าไรยิ่งเพิ่มพูนไม่มีวันหมด
*นักปราชญ์ ยังรู้พลาด ตัวเราไซร์ใช่ว่าเก่งกล้ากว่าผู้อื่นเสมอไป ถ้ามีเงา ย่อมมีแสงสว่างอยู่ใกล้ๆ
*ความรู้ที่มีคุณค่า มีไว้เพื่อก่อเกิดประโยชน์ มิใช่มีไว้เพื่อโอ้อวด
*คำพูด ลูกศร สายน้ำ เวลา และโอกาส ผ่านล่วงเลย แล้วไม่เคยหวนคืน
*เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ให้มองหาทางแก้ไข มิใช่หาผู้กระทำความผิด
*สิ่งที่ท่านไม่ชอบ ก็อย่าคิดว่าผู้อื่นจะชื่นชอบหรือไม่ชอบเหมือนท่าน
*อย่าให้ความคิดของเรา กลายเป็นคุกขังจิตวิญญาณของเราเอง 



*เอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ เอาชนะความเลว ด้วยความดี 
*เอาชนะความตระหนี่ ด้วยการเอื้อเฟื้อ
*ความหมองหม่นและเจ็บปวดทางจิตใจ มิได้เกิดจากการกระทำหรือคำพูดของใคร 
*หากแต่เป็นเพราะความคิดและทัศนาคติของตัวเราเอง
*เดินทาง ไกล - ใกล้ อย่างไรก็ต้องมีก้าวแรก  สติและความพร้อม คือหัวใจของการรับมือกับปัญหา
*เป้าหมายวางไว้ให้สูง อัตตาและตัวตน วางไว้ให้เสมอผู้อื่น คิดและทำทันที โดยไม่รอเวลในอนาคต
*อุปสรรคและความลำบาก ไม่ใช่สิ่งที่ต้องหวาดกลัง แต่เป็นสิ่งที่เราต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้
*หลอกตัวเองนั้นง่าย เอาชนะใจตนเองนั้นยากกว่า ความกลัวอันยิ่งใหญ่ คือ กลัวที่จะทำ
*หาไม่ปีนป่ายให้ถึงยอดเขา คงไม่มีวันรู้ว่าบนนั้นเป็นเช่นไร
*ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ความท้อแท้ ท้อถอย น่ากลัวยิ่งกว่า
*ความอดทน คือเชื้อเพลิงขับดันให้ไปสู่ความสำเร็จ จงเสียละวันนี้ เพื่อวันพรุ่ง
*ความมานะ อดทน ขยันหมั่นเพียร มิใช่หนทางแห่งทุกข์
*ความดีหมั่นเพียรสร้างสมกันเป็นปี ความเลวไซ้รเพียงเสี้ยววินาทีก็ทำได้แล้ว
*การลงโทษ ทำให้หลาบจำ หวาดกลัง การให้กำลังใจ ทำให้มีความมั่นใจและทำได้ดียิ่งขึ้น
*คนดี ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง คนเลว เลือกดีเฉพาะต่อหน้า คนดี ไม่ไช่ไม่เคยทำผิด
*มีดคมเพียงใด นานวันใช้ไปต้องลับคมมิให้ทื่อ สติปัญญาเฉียบคมเพียงใด 
  ก็ต้องคอยหมั่นหามาเพิ่มเติม
*สมาธิ เกิดขึ้นได้ทุกขณะ มิใช่ชั่วหลับตานั่งนิ่งเท่านั้น


*ชั่วชีวิตเรา จงยิ้มให้มาก หัวเราะพอประมาณ ร้องให้ให้น้อยครั้งที่สุด
*การแต่งงานเป็นเรื่องง่าย การใช้ชีวิตคู่อย่างราบรืนและเป็นสุขเป็นเรื่องยาก
*อย่าเสียใจ กับวัยชราที่มาถึง แต่จงเสียใจ กับการใช้ชีวิตอย่าไร้แก่นสารในวันเวลาที่ผ่านมา
*ชีวิตที่ดี และมีคุณค่า มิใช่เพียงเพราะว่าอยู่มานาน แต่เพราะอยู่ด้วยความคิดและความดี
*ความทุกข์ บอกให้ย้อนมองกลับไปข้างหลัง ความวิตกกังวล บอกให้มองไปรอบๆตัว 
*ความหวัง บอกให้มองขึ้นไปสู่เบื้องบน สิ่งใดที่แก้ไขไม่ได้ จงเรียนรู้ที่จะอดทนอยู่กับมัน
*ความสุขและทุกข์ มีอุบัติและสิ้นสุด บทเรียนชีวติมีค่าที่สุด มักอยู่ท่ามกลางความทุกข์ยาก  
*เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความทุกข์ แต่เราสามารถปัดเป่าให้มันผ่านพ้นไปได้โดยเร็ว
*ยามหนุ่มสาวไม่หมั่นศึกษา ขยันพากเพียร สร้างเนื้อสร้างตัว ยามชรา ไม่พ้นถือกะลาขอทาน
*ความรักเพียงประการเดียว มิอาจทำให้ชีวิตคู่ผ่าสุกสมบูรณ์ได้
*รักให้เป็น ต้องเปิดทั้งตาและเปิดหัวใจ ยามท้องอิ่ม อย่าได้ลืมวันเวลาอด
*ชีวิตทีเรียบง่าย สมถะ เพียบพร้อมด้วยสันติสุข ย่อมดีกว่าชีวตที่มั่งคั่ง แต่แวดล้อมไปด้วยภัยอันตราย
*คนส่วนมากมักกลัวความแก่ชรา แต่ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตยืนยาวจนเก่เฒ่า
*ชีวิตสั้นนัก ดั่งหยดหยาดน้ำค้า แลน้อยนิดไม่ผิดธุลีดิน


*คิดขุดโค่นไม้ใหญ่ ต้องถอนทั้งรากทั้งโคน
*คิดล้มไม้ใหญ่ ต้องตัดใจจากร่มเงา   
*คนเรามักทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะอดใจไม่ได้ แต่สิ่งที่ถูกต้อง กับไม่ค่อยทำ
*ความถูกต้อง คืออำนาจ แต่ในบางครั้ง อำนาจ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ถ้าไปอยู่กับฝ่ายที่ไม่ชอบธรรม
*อย่าทำตนเหนือผู้อื่น แล้วท่านจะได้เป็นผู้นำที่แท้จริง ที่นั่งที่ดีที่สุด คือ ที่นั่งในใจคน
*ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ความท้อแท้ ท้อถอย น่ากลัวยิ่งกว่า
*ความอดทน คือเชื้อเพลิงขับดันให้ไปสู่ความสำเร็จ จงเสียละวันนี้ เพื่อวันพรุ่ง
* ความมานะ อดทน ขยันหมั่นเพียร มิใช่หนทางแห่งทุกข์
*ผู้เก่งกล้าสามารถ เอาชนะคนอื่น ผู้เกรียงไกร เอาชนะตนเอง 



*ความรู้ คืออำนาจ ซึ่งเป็นเหมือนดาบสองคม
*เป็นศิษย์มิควรคิดลบหลู่ครูอาจารย์ แต่ศิษย์มีสิทธ์เชี่ยวชาญชำนาญกว่าครูได้
*อ่านตำรามิแค่เพียงให้จบเล่ม แต่พึงอ่านให้รู้แตกฉาน
*อย่ายึดติดความรู้ในตำรา แต่จงก้าวไกลให้เกินกว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในตำรา
*ความรู้เป็นเสมือนดาบ ปัญญาเป็นดั่งท่วงท่าลีลากระบวนดาบ
*มีตำรานับพันเล่ม หากมิเคยเปิดอ่าน ก็มิต่างอะไรกับกองกระดาษไร้ค่า
*รอบรู้ทุกอย่าง ใช้ว่าจะเก่งทุกเรื่อง เก่งกล้าสามารถมากมายหลายอย่าง
*อาจไม่เชียวชาญชำนาญรู้จริงสักเรื่อง
*ฉลาดปราดเปรื่อง รู้แต่เรื่องในตำรา ก็มิต่างอะไรกับนกแก้วนกขุนทอง
*คนรู้มาก รู้จริง ย่อมถ่อมตนว่ารู้น้อย คนรู้น้อย รู้แค่เพียงพิวเผิน ย่อมอวดโอ้ถือตนว่ามีภูมิปัญญดั่งขุนเขา
*ความหิว.. บรรเทาได้ด้วยอาหาร ความเขลา บรรเทาได้ด้วยการศึกษาหาความรู้
*คนมีปัญญา ไม่เคยอับจนหนทางแสวงหาทรัพย์ คนไร้ปัญญา ทรัพท์หมดเมื่อไรก็อับจนตกต่ำเมื่อนั้น
*นักปราชญ์ คุ่ยเรื่องปรัชญาความรู้ นักเลงอันตพาล คุยเรื่อง ปล้น จี้ ตี ต่อย
*ช่วยชีวิตคนเพียงคนเดียว ดีกว่าเที่ยวตระเวณสร้างโบสถ์วิหารเก้าแห่ง


*ดอกไม้กลิ่นหอม อาจไม่สวยต้องตา ดอกไม้กลียเกสรงามตา อาจไร้กลิ่นหอมต้องใจ
*งามรูปโฉม ยามวัยร่วงโรยก็ไร้ค่า งามภูมิปัญญา นานวันมีแต่เพิ่มพูนคุณค่า
*เสื่้อผ้าอาภรณ์ราคาเรือนหมื่น ผู้สวมใส่อาจแบกหนี้ไว้เป็นล้าน
*จำนวนเงินภาษียิ่งสูงมากเท่าใด เจ้าของกิจการสมควารดีใจมากเท่านั้น
*ชีวิตคนไม่เที่ยว มีขึ้น มีลง มีโชติช่วงมีริบหรี่ ไม่เคยมีคงที่จีรัง
*อย่าโง่เกิน ไม่ฉลาดปราดเปรื่องเกิน เขลาบ้าง  ฉลาดบ้าง แต่พอดีไม่มีภัย
*ผู้มีปัญญารู้จักตัวตน ย่อมไม่หวั่นไหวไปกับคำเยินยอหรือการติฉินนินทา
*อย่าอวดโอ๋ อวดเบ่ง ว่าตนนั้นเก่งกาจฉลาดล้ำ อยู่ตรงหน้าท่านนั้นอาจเป็นปราชญ์ภูมิยิ่งกว่า
*พึ่งพาอาศัยสิ่งใดมากเกินไป ย่อมถูกสิ่งนั้นครอบงำ
*ให้อดีตอธิบายปัญหา นำมาเป็นกุญแจไขปริศนาในปัจจุบัน เพื่อก้าวไปสู่วันพรุ่ง
*ความเปลี่ยนแปลง เป็นเพียงความเคลื่อนไหว มิใช่การสูญเสีย  ละครชีวิต ไม่เคยมีการซ้อม

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น