ควาย สมัยเด็กๆ ต.หัวตะพาน จะเห็นฝูงวัว
ฝูงควาย ตอนเช้าชาวบ้านก็ต้อนฝูงควาย
เดินเรียงรายไปตามริมถนนไปกินหญ้าในนาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วหรือที่ดอนว่างเปล่า
ตอนเย็นก็ต้อนกลับบ้านเข้าคอกเป็นความสุขเล็กๆที่มีไห้เด็กบ้านนอกได้ดู ตอนนี้ฝูงควายเริ่มหายไปจากท้องทุ่งนา
และริมถนน แต่ยังมีเลี้ยงบ้างประปราย
สมัยโบราณ เจ้าของควาย นำควายไปไถนา ใช้แอกเทียมควาย 2 ตัวคู่กัน ไถนา
ตั้งแต่เช้าจนเย็น ก็นำควายกลับบ้านเข้าคอก นอนพักผ่อน
รุ่งเช้าก็สู้งานกันอีกครั้ง มีคำสุภาษิตเกี่ยวกับควายเมื่อหมดแรงกาย
ก็ขายบ้าง ทำกินบ้าง (สุภาษิตมีอยู่ว่า เสร็จนา ฆ่าโคถึก )
ควายนอกจากใช้แรงงานแล้ว ยังเลี้ยงไว้ขายได้อีกด้วย
และเพื่อบริโภคเมื่อมีงานมงคลหรืองานศพ (เนื้อควายจะสีแดงคล้ำ
เนื้อเป็นเส้นหยาบกว่าเนื้อวัว)
ควาย มีรูปร่างล่ำสัน อ้วนพี ผิวหนังมีสีเทาเข้มเกือบดำ ขนสั้นเกรียนสีเทา อาจมีสีขาวเผือกบ้าง (ควายสีเผือก) ขนสั้นเกรียนสีขาว ลำตัวหนา ท้องใหญ่ หัวยาวหน้าผากสั้นแบน เขา 2 ข้างโค้งไปด้านหน้างุ้มเข้าหากันปลายแหลม ตานูน รูจมูกกว้าง มีเท้าที่ใหญ่
ควายไม่ชอบอากาศร้อน ชอบนอนแช่น้ำ แช่ปลัก ถ้าอากาศร้อนอารมณ์หงุดหงิดง่ายไม่ควรเข้าใกล้ควายอาจจะใช้เขาไล่แทงเอาได้ (ควายขวิด ภาษาเรียกในท้องถิ่น)
นอกจากนี้ ควายก็ยังมีบทเพลงเกี่ยวกับควายหลาย ศิลปิน หลายครูเพลงแต่งไห้นักร้องเกี่ยวกับควายหลากหลายบทเพลง นั่นแสดงว่าควายเป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์และรักษาไห้คงอยู่เพื่อคนรุ่นหลังได้รู้จัก
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น